โศกนาฏกรรมงานเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีนที่เกิดขึ้น ณ ย่านอิแทวอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.2565 ซึ่งทำให้ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คนนั้น กำลังถูกประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้มากน้อยเพียงใด

แม้สัปดาห์แห่งการไว้ทุกข์ทั่วประเทศจะสิ้นสุดลงไปเมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 5 พ.ย. แต่การยกเลิกกิจกรรม งานรื่นเริงต่างๆ จำนวนมากมายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่เกาะเจจูไปจนถึง ปูซานและโซล ก็น่าจะกระทบต่อเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกาหลีใต้เพิ่งตัดสินใจเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว

งานยักษ์ที่ถูกยกเลิกไปแล้ว ได้แก่ คอนเสิร์ตเคป๊อป Busan One Asia Festival ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองปูซาน และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมราว 40,000 คน เทศกาลพลุและดอกไม้ไฟ Busan Fireworks Festival 2022 รวมทั้งเทศกาล Jeju Olle Walking ที่เกาะเจจู ได้ถูกเลื่อนออกไป เช่นเดียวกับเทศกาลลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ Korea Sale Festa ซึ่งกินระยะเวลาราว 2 สัปดาห์ ก็ถูกยกเลิกพิธีเปิดงานในวันที่ 31 ต.ค.2565 ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

ขณะที่บริษัทค้าปลีกหลายแห่ง ต่างพากันยุติแคมเปญโปรโมต กระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลฮาโลวีนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าลอตเต้ สตาร์บัคส์ อิเกีย เป็นต้น เช่นเดียวกับคณะรัฐมนตรี บริษัทเอกชนต่างยุติการออกอีเวนต์ ยกเลิกนัดรับประทานอาหาร พบปะสื่อมวลชน ส่วนโรงเรียนยกเลิกทริปทัศนศึกษา ทั้งหมด

...

แม้ช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ความรู้สึกอยากจับจ่ายใช้สอย เดินทางท่องเที่ยว พบปะเพื่อนฝูงจะกลับมาเมื่อไร ยังไม่มีใครรู้

ย้อนกลับไปอีกหนึ่งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในเกาหลีใต้ เรือเซวอล (Sewol Ferry) อับปางเมื่อปี 2557 คร่าชีวิตคนบนเรือไปมากกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลาย เหตุการณ์สะเทือนขวัญเช่นนี้ ไม่เลือนหายไปง่ายๆ และกระทบลากยาวต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้

อุบัติเหตุเรือเซวอลล่ม ทำให้ตลาดผู้บริโภคในเกาหลีซบเซาและเติบโตลดลง แม้ในเดือนถัดมาหลังเหตุการณ์ยอดขายห้างค้าปลีก จำนวนผู้เข้าชมภาพยนตร์ในโรงหนัง และยอดจำหน่ายบัตรสวนสนุกล้วนปรับลดลงทั้งสิ้น

ปาร์คซางฮุน นักเศรษฐศาสตร์จากหลักทรัพย์ HI ประเมินว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นยิ่งบั่นทอนบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอย ที่กำลังซบเซาอยู่แล้วจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก แต่ผลกระทบจะยาวนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการพลิกฟื้น เยียวยา และแก้ไขสถานการณ์ต่อจากนี้

ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปเอเชีย เติบโตลดลงจากการส่งออกที่หดตัวและ เงินวอนอ่อนค่า

ตอกย้ำด้วยนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กดดันตลาดเงินระยะสั้น และธนาคารกลางเกาหลีใต้ยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยท้าทายความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยอย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุให้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญมีแนวโน้มปรับลดลงแทบทุกตัว

หันมาดูที่ตลาดท่องเที่ยวกันบ้าง แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าตลาดท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้มากน้อยเพียงไร เพราะทางการเกาหลีใต้เพิ่งคลายกฎ ยกเลิกการสวมแมสก์เป็นครั้งแรก สะท้อนภาพการเปิดประเทศ กลับคืนสู่วิถีชีวิต ปกติ ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเกาหลีเพิ่มต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจึงย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นไม่น้อย

แม้สำนักข่าว The Korea Herald จะรายงานว่า อิแทวอนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนท้องถิ่น ตลอดจนชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในเกาหลีเป็นหลัก กรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่มากนัก ที่บรรจุโปรแกรมเที่ยวอิแทวอนเอาไว้ แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางมาเที่ยวเอง มีเพียงนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น ที่นิยมเดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์

เมื่อเดือน ก.ย.2565 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเกาหลีใต้มีราว 337,000 คน เพิ่มขึ้น 276% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การ ท่องเที่ยวเกาหลีจึงคาดหวังอย่างยิ่งว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นับจากนี้การเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเก๊า และฮ่องกง ตั้งแต่เดือน ก.ค.2565 ยังช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าวเติบโตหลัก 1,000% ขึ้นไป

ขณะที่นโยบายฟรีวีซ่าสำหรับประเทศตะวันตก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส และรัสเซีย ก็ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าว เติบโตเกิน 200% ทุกประเทศ

...

นำไปสู่คำถามที่ว่าโศกนาฏกรรม ณ อิแทวอน จะเป็นตัวฉุดรั้งเครื่องจักรเพิ่มพลังเศรษฐกิจอย่างการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ที่กำลังกลับมาคึกคักหรือไม่.

ศุภิกา ยิ้มละมัย