สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ต้อนรับนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ในการเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 1 วัน เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เป็นผู้นำประเทศกลุ่มจี 7 คนแรกที่เยือนจีนในช่วงเวลา 3 ปี ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และยังเป็นการเดินทางครั้งสำคัญที่ถูกทั่วโลกจับจ้องท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกและจีนที่เพิ่มสูงขึ้นในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่ไต้หวัน ข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และการสนับสนุนรัสเซียของจีน
การเยือนจีนของโชลซ์พร้อมด้วยนักธุรกิจชั้นนำของเยอรมนีหลายสิบคนอย่างซีอีโอของโฟล์คสวาเกน, บีเอ็ม ดับเบิลยู, บีเอเอสเอฟ, ไบเออร์ และธนาคารดอยซ์ แบงก์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำธุรกิจที่เฟื่องฟูในจีน สะท้อนให้เห็นความสำคัญของความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างเยอรมนีที่พึ่งพาจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคยานยนต์และการผลิตรถยนต์เมอร์ซีเดซ เบนซ์ เพียงแบรนด์เดียวสามารถทำยอดขายในจีนได้สูงถึง 758,863 คัน เมื่อปีที่แล้ว มากกว่าประเทศอื่นๆในโลก ซึ่งในการพบปะครั้งนี้โชลซ์หวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่อไป ยังพูดคุยถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านอาหาร และประเทศลูกหนี้ ยังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่มีมุมมองแตกต่างกัน
ส่วนประเด็นการโจมตียูเครนของรัสเซียซึ่งเยอรมนีแสดงท่าทีต่อต้านรัสเซียนั้น ประธานาธิบดีสียืนยันว่า จีนสนับสนุนเยอรมนีและสหภาพยุโรปที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพและส่งเสริมการสร้างกรอบความปลอดภัยที่สมดุล มีประสิทธิภาพและยั่งยืน และเสริมว่าประชาคมระหว่างประเทศควรเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้เหตุผลและความยับยั้งชั่งใจ ดำเนินการพูดคุยเพื่อเริ่มต้นการเจรจาและร่วมคัดค้านการคุกคาม รวมทั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ผู้นำเยอรมนีกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญสำหรับจีนที่จะแสดงอิทธิพลต่อรัสเซีย
...
นอกจากนี้ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ผู้นำจีนเรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ทำงาน อย่างใกล้ชิดในประเด็นระหว่างประเทศให้มากขึ้น ในฐานะเป็นประเทศใหญ่และมีอิทธิพล เพื่อสนับสนุนสันติภาพและการพัฒนาของโลกให้มากขึ้น ขณะที่โลกเผชิญการเปลี่ยนแปลงและความสับสนวุ่นวาย และต่อมาในระหว่างรับประทาน อาหารกลางวันร่วมกัน ผู้นำจีนยังกล่าวเตือนว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันนั้นถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย แต่สร้างใหม่ได้ยากเย็น จีนและเยอรมนีควรเคารพและดูแลผลประโยชน์หลักของกันและกัน.