ผลวิจัยของ แลนเซต พบว่า ชาวอินเดียเสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นถึง 55% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อนุภาคขนาดเล็กจากการเผาเชื้อเพลิงก็ทำให้คนตายจำนวนมาก

สำนักข่าว บีบีซี รายงาน ว่า วารสารการแพทย์ ‘เดอะ แลนเซต’ (The Lancet) เผยแพร่รายงานประจำปีว่าด้วยปัญหาสุขภาพจากผลกระทบของภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเมื่อวันอังคารที่ 25 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในประเทศอินเดียในช่วงปี 2560-2564 สูงกว่าในช่วงปี 2543-2547 มากถึง 55%

รายงานดังกล่าวยังพบด้วยว่า การสัมผัสกับคลื่นความร้อนส่งผลให้ชาวอินเดียสูญเสียเวลาทำงานรวมกันถึง 1.67 แสนล้านชั่วโมงในปี 2564 ทำให้เกิดการสูญเสียรายได้คิดเป็นราว 5.4% ของเศรษฐกิจมวลรวมในประเทศ หรือ GDP

ทั้งนี้ อินเดียกำลังเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงขึ้น นานขึ้น และถี่ขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในรายงาน Lancet Countdown มีการเก็บข้อมูลจาก 103 ประเทศ และพบว่า คลื่นความร้อนที่เล่นงานอินเดียกับปากีสถานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน มีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าเดิมร่วม 30 เท่า อันเป็นผลจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร พบว่า ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้เพิ่มโอกาสที่คลื่นความร้อนจะทำให้อุณหภูมิในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียและปากีสถาน พุ่งสูงทุบสถิติขึ้นถึง 100 เท่า

เดอะ แลนเซต ระบุอีกว่า ในปี 2564 มีผู้คนในอินเดียมากกว่า 330,000 รายที่เสียชีวิตจากการหายใจเอาอนุภาคขนาดเล็ก ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลเข้าไป เนื่องจากชาวอินเดียพึ่งพาการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่าง น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงชีวภาพมาก จนทำให้ความหนาแน่นเฉลี่ยของอนุภาคต่อครัวเรือนสูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกถึง 27 เท่า.

...