รัสเซียยังคงโจมตีทางอากาศมุ่งเป้าหมายไปที่ระบบพลังงานของยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำลายสถานีพลังงานไปแล้วกว่า 30% ทำให้เกิดไฟดับกระทบประชาชนร่วม 1.5 ล้านครัวเรือน

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า รัสเซียยังคงมุ่งเน้นทำลายระบบไฟฟ้าของยูเครนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในวันเสาร์ที่ 22 ต.ค. 2565 โครงสร้างพื้นฐานสำคัญหลายแห่งในภาคกลางและตะวันตกของยูเครน รวมถึงพื้นที่ทางใต้และตะวันตกของกรุงเคียฟ ถูกโจมตีทางอากาศรอบใหม่

การโจมตีทางอากาศของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สถานีไฟฟ้าทั่วยูเครนถูกทำลายไปแล้วเกือบ 30% ท่ามกลางรายงานว่าเกิดไฟดับหลายจุดทั่วประเทศ ซึ่งนาย คีรีโล ทีโมเชนโก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เผยว่า ตอนนี้ประชาชนกว่า 1.5 ล้านครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้

พื้นที่ที่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีระลอกล่าสุดรวมถึงแคว้นเชอร์คาซี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเคียฟ และที่เมืองคเมลนิตสกี ทางตะวันตก นอกจากนั้นยังมีรายงานการโจมตีทางอากาศและระบบไฟฟ้าขัดข้องตั้งแต่ที่เมืองโอเดสซา ทางตอนใต้ ไปจนถึงเมืองรีฟเนและเมืองลุตสก์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วย

บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติ ‘ยูเรเนอร์โก’ (Urenergo) ระบุว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ของรัสเซียอาจสร้างความเสียหายมากกว่าการระดมโจมตีทั่วประเทศเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเสียอีก ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียโจมตีด้วยจรวด 36 ลูกเล็งเป้าที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ แต่ส่วนใหญ่ถูกสกัดไว้ได้

ด้านนาย เซอร์ฮี คีราล รองนายกเทศมนตรีเมืองลวิฟ ทางตะวันตก บอกกับ บีบีซี ในวันเสาร์ว่า ตอนนี้ยุทธศาสตร์ของรัสเซียคือการสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครนก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง และนำพาสงครามไปยังพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากแนวหน้าการปะทะ

...

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่มอสโกในแคว้นเคอร์ซอนซึ่งถูกรัสเซียยึดครองบางส่วน ดำเนินการอพยพประชาชนหลายพันคนตลอดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อ้างว่าเพื่อความปลอดภัยหลังจากกองทัพยูเครนชิงคืนพื้นที่และประชิดเข้ามาเรื่อยๆ.