ผู้นำและบุคคลสำคัญทั่วโลก ต่างออกมาร่วมแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งจากไปขณะมีพระชนมพรรษา 96 พรรษา
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า หลังจากสำนักพระราชวังบักกิงแฮม เปิดเผยข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. 2565 ทำให้ผู้นำประเทศทั่วโลกต่างออกมาแสดงความอาลัย และยกย่องในความสำนึกในหน้าที่, ความอดทน รวมถึง อารมณ์ขัน และความมีน้ำใจของราชินีผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดผู้นี้
นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นคนแรกๆ ที่ออกมาแสดงความอาลัย โดยจะจดจำควีนเอลิซาเบธ ในฐานะราชินีผู้มีน้ำใจและเป็นมิตรกับฝรั่งเศส ขณะที่นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ควีนทำให้ทั้งโลกหลงใหลด้วยการปกครองด้วยความกรุณา ความสง่างาม และการทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ด้านนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ อธิบายว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เป็นยิ่งกว่ากษัตริย์ พระองค์คือนิยามของยุคสมัย เขายังพูดถึงตอนเยือนสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2564 ด้วยว่า ควีนทำให้พวกเขาหลงเสน่ห์ด้วยไหวพริบ ทำให้พวกเขาประทับใจด้วยความเอื้อเฟื้อ และแบ่งปันความรู้ของพระองค์อย่างมีน้ำใจ
อนึ่ง ไบเดนเป็น 1 ในประธานาธิบดีสหรัฐฯ 14 คนที่เคยพบกับควีนเอลิซาเบธที่ 2 โดยอีกคนคือ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมมิตรภาพ, สติปัญญา และอารมณ์ขันอันแสนวิเศษของควีนเอลิซาเบธเลย “ช่างเป็นสุภาพสตรีที่งดงามและยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเหมือนกับพระองค์อีกแล้ว” นายทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ของเขาเอง
...
ขณะที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวไม่นานหลังจากมีข่าวการสวรรคตของควีนเอลิซาเบธ ว่า พระองค์เป็นที่รักอย่างยิ่งของชาวแคนาดา “ในโลกที่ซับซ้อนนี้ ความสง่างามและความมุ่งมั่นของพระองค์นำความสบายใจมาสู่เราทุกคน” เขายังคิดถึงการสนทนาระหว่างทั้งสองและว่า “พระองค์เป็นคนโปรดที่สุดของผมในโลกนี้ และผมจะคิดถึงพระองค์เสมอ” นายทรูโดพูดพลางกลั้นน้ำตา
พระประมุขของประเทศอื่นๆ อย่าง สมเด็จพระราชาธิบดี วิลเลียม-อเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ กับราชินีฟาติมา และสมเด็จพระราชาธิบดี ฟิลิปเป กับควีน มาธิลเด แห่งเบลเยียม ก็ออกมาแสดงความอาลัย และยกย่องควีนเอลิซาเบธเช่นกัน
ส่วนนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ออกมาพูดถึงความทรงจำที่เขาได้เข้าเฝ้าฯ ควีนเอลิซาเบธระหว่างเดินทางเยือนอังกฤษ 2 ครั้ง “ผมจะไม่มีวันลืมความอบอุ่นและน้ำใจของพระองค์” นายโมดีระบุผ่านทวิตเตอร์ “ในการพบกันครั้งหนึ่ง พระองค์ให้ผมดูผ้าเช็ดหน้าที่มหาตมา คานธี ให้พระองค์เป็นของขวัญวันแต่งงาน ผมจะถนอมความทรงจำนี้ตลอดไป”
ด้านนายไอแซค เฮอร์ซอก ประธานาธิบดี อิสราเอล ยอมรับว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายตลอดการครองบัลลังก์ของควีนเอลิซาเบธ แต่พระองค์ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง, ผู้นำที่มีความรับผิดชอบ และดวงประทีปแห่งศีลธรรม, ความเป็นมนุษย์ และความรักชาติ “ควีนเอลิซาเบธเป็นบุคคลแห่งประวัติศาสตร์ พระองค์ใช้ชีวิตผ่านประวัติศาสตร์, สร้างประวัติศาสตร์ และพระองค์ได้ทิ้งมรดกอันดีเลิศและเป็นแรงบันดาลใจเอาไว้”