สำนักพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม สหราช อาณาจักร ออกแถลงการณ์ด่วน มีความกังวลในพระพลานามัยของ “สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2” ที่ประทับอยู่ที่ปราสาทบัลมอรัล พร้อมถวายคำแนะนำให้ทรงอยู่ภายใต้การดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด ขณะที่บรรดาสมาชิกราชวงศ์ทยอยเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษเผยประชาชนทั่วสหราชอาณาจักรต่างรำลึกถึงพระองค์และส่งแรงใจไปถวาย ชาวอังกฤษหลั่งไหลเฝ้าหน้าปราสาทบัลมอรัลแสดงความเป็นห่วงต่อองค์พระประมุขชาติ

ชาวโลกและชาวอังกฤษทั่วทั้งประเทศต่างส่งกำลังใจถวายแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมายุ 96 พรรษา ประมุขแห่งราชวงศ์อังกฤษและยังทรงเป็นประมุขแห่งสหราชอาณาจักรที่ปกครองเครือจักรภพ 54 ประเทศและเขตแดน ที่โลกเรียกพระนามพระองค์ว่า “ควีนเอลิซาเบธที่ 2” ภายหลังจากสำนักข่าวบีบีซีอังกฤษรายงานแถลงการณ์ด่วนของสำนักพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมเมื่อบ่ายวันที่ 8 ก.ย. ตามเวลาอังกฤษ หรือเวลา 20.30 น. ตามเวลาในไทย ระบุว่าแพทย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แสดงความเป็นห่วงต่อพระพลานามัยของสมเด็จพระราชินีนาถฯ และอยู่ระหว่างถวายการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ยังคงประทับอยู่ที่ปราสาทบัลมอรัล เขตอาเบอร์ดีนเชอร์ ในสกอตแลนด์ ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดที่สุด

...

ภายหลังแถลงการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ผู้สื่อข่าวสายราชสำนักของสำนักข่าวบีบีซีอังกฤษ รายงานว่า เหตุการณ์นี้อาจเป็นเรื่องร้ายแรงกว่าปกติหรือไม่ เนื่องจากเห็นได้ว่าสำนักพระราชวังเลือกใช้คำสั้น กระชับ ระมัดระวังและปกติจะไม่รายงานด่วนเรื่องพระพลานามัยของสมเด็จพระราชินีนาถฯหากไม่จำเป็น ทั้งมีรายงานต่อมาด้วยว่า บรรดาสมาชิกพระบรมวงศานุวงศ์ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเดินทางไปยังพระตำหนักบัลมอรัลในสกอตแลนด์อย่างเร่งด่วน ทั้งสมเด็จเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารและเจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าหญิงแอนน์ ราชกุมารี เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ค เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์ รวมถึงเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ขณะที่แคเทอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ไม่ได้ตามเสด็จเจ้าชายวิลเลียม โดยยังประทับอยู่กับพระโอรสและพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ที่พระราชวังวินด์เซอร์ เนื่องจากเป็นวันแรกที่พระโอรสและพระธิดาทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนแห่งใหม่

นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ที่เพิ่งเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า ประชาชนชาวอังกฤษทั้งประเทศต่างวิตกกังวลอย่างหนักต่อข่าวจากสำนักพระราชวัง ผู้คนทั่วทั้งสหราชอาณาจักรต่างรำลึกถึงและส่งแรงใจไปยังสมเด็จพระราชินีและพระบรมวงศานุวงศ์

ในคืนวันเดียวกัน มีรายงานว่า สำนักพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมได้มีคำสั่งยกเลิกการเปลี่ยนเวรยามทหารรักษาพระองค์บริเวณหน้าพระราชวัง ที่ปกติจะมีขึ้นทุกวัน ส่วนบริเวณหน้าปราสาทบัลมอรัลเต็มไปด้วยพสกนิกรที่มาแสดงความเป็นห่วงต่อข่าวพระพลานามัยของสมเด็จพระราชินี ส่วนสำนักข่าวการ์เดียนรายงานว่า สถานีโทรทัศน์ช่องบีบีซี วันระงับการออกรายการปกติ พิธีกรหลักนายฮิว เอ็ดเวิร์ดส์ มีการสวมสูทดำ เสื้อเชิ้ตขาวและเนกไทสีดำ ที่เป็นระเบียบการแต่งกายเวลารายงานข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมาชิกราชวงศ์

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ก.พ.65 สมเด็จพระราชินีนาถฯ หรือควีนเอลิซาเบธที่ 2 ของชาวอังกฤษและ ประชากรในประเทศเครือจักรภพ ทรงครองสิริราช สมบัติครบ 70 ปี ขณะมีพระชนมพรรษา 96 พรรษา โดยการครองราชบัลลังก์เป็นเวลาถึง 70 ปี ถือว่าเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในบรรดาราชวงศ์อังกฤษและยาวนานที่สุดในโลก รัฐบาลอังกฤษจึงจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสที่เรียกว่าเป็น “จูบิลีแพลทินัม” ที่หาได้ยากยิ่ง เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. โดยสมเด็จพระราชินีนาถฯ พร้อมด้วยสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ ได้เสด็จออกสีหบัญชร พระราชวังบั๊กกิ้งแฮม โบกพระหัตถ์ให้กับพสกนิกรที่รอเฝ้าชื่นชมพระบารมี ซึ่งในวันนั้นถือได้ว่าเป็นห้วงเวลาแห่งความสุข ความปลื้มปีติของชาวอังกฤษทุกคน

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ.1926 เป็นพระราชธิดาพระองค์แรกของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ โดยพระราชบิดาเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 กับสมเด็จพระราชินีแมรี ภายหลังสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 เสด็จขึ้นครองราชย์ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระปิตุลาของพระองค์ทรงสละราชสมบัติ ทำให้เจ้าหญิงเอลิซาเบธ (พระยศในขณะนั้น) ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทแห่งสหราชอาณาจักร จวบจนกระทั่งสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดา สวรรคตในคืนวันที่ 6 ก.พ. 1952 เจ้าหญิงเอลิซาเบธ อเล็กซานดรา แมรี แห่งยอร์ก จึงเสด็จขึ้นครองราชย์ ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 25 พรรษา และมีพระปฐมบรมราชโองการแก่พสกนิกรชาวอังกฤษว่า “ข้าพเจ้าพร้อมอุทิศชีวิตเพื่อประชาชนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนไม่ว่าจะศาสนาใดก็ตาม ให้ช่วยสวดภาวนาให้ข้าพเจ้า ในวันที่ข้าพเจ้าต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกษัตริย์แห่งอังกฤษ สวดภาวนาให้พระ เป็นเจ้าประทานพระปัญญาญาณและความเข้มแข็งให้ข้าพเจ้าสามารถปฏิบัติราชกิจลุล่วงตามที่ข้าพเจ้าได้ให้สัตย์ปฏิญาณไว้ และข้าพเจ้าพร้อมรับใช้พระ เป็นเจ้าและประชาชนของข้าพเจ้าทุกคนตลอดที่ข้าพเจ้ายังมีลมหายใจ”

...

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ปี ค.ศ.1947 และเจ้าชายฟิลิปทรงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุกแห่งเอดินเบอระ ทรงมีพระราชโอรสและพระธิดารวม 4 พระองค์ คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ เจ้าฟ้าหญิงพระวรราชกุมารี เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุก แห่งยอร์ก และเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกน์ ตลอดเวลาแห่งการครองราชย์ทรงเป็นที่รักของชนชาวอังกฤษ

ต่อมาเวลา 21.23 น. ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวบีบีซีอังกฤษรายงานว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ เสด็จถึงปราสาทบัลมอรัลและทรงอยู่เคียงข้างพระมารดา ขณะที่พระสังฆราชอาร์คบิชอปออฟ แคนเทอเบอรี ทรงออกแถลงการณ์ว่า ขอนำสวดภาวนาต่อข่าวพระพลานามัยของสมเด็จพระราชินีนาถฯ ขอพระเจ้าทรงประทานความเข้มแข็งและปลอบประโลมสมเด็จพระราชินีนาถฯ พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งพสกนิกรที่มาร่วมแสดงความห่วงใยที่ปราสาทบัลมอรัล