สงครามยูเครน-รัสเซียยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดโดยไม่มีท่าทีจะจบสิ้น โดยเมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ประกาศกร้าวรอบใหม่ว่า จะไม่มีการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย หากเชลยศึกยูเครนถูกนำตัวขึ้นศาลชำระคดีความอาชญากรสงคราม ซึ่งยูเครนมองว่าเป็นการเล่นละคร อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ รัฐบาลยูเครนก็ระบุว่าจะไม่มีการเจรจากับรัสเซียจนกว่ากองทัพยูเครนจะทวงคืนดินแดนที่เสียไปทั้งหมดคืนจากรัสเซีย รวมถึงคาบสมุทรไครเมียที่ถูกรัสเซียผนวกไปเมื่อปี 2557

ด้านนายเกนนาดี กาติลอฟ เอกอัครราชทูตถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ นครเจนีวา สวิต เซอร์แลนด์ มองว่า จุดยืนรัฐบาลยูเครนในปัจจุบันทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ช่องทางการทูต ขณะที่สหรัฐฯและชาติพันธมิตรใช้ความขัดแย้งในยูเครนเป็นเหตุผลในการบีบคั้นรัสเซีย ใช้เป็นเครื่องมือในการโดดเดี่ยวรัสเซีย ทำลายทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ในกรณีนี้ยิ่งความขัดแย้งยืดเยื้อนานเท่าไร การใช้ช่องทางการทูตก็ยิ่งยากเท่านั้น ความสัมพันธ์ของคณะทูตรัสเซียกับชาติตะวันตกขณะนี้แทบจะเป็นศูนย์ ติดต่อไม่ได้ทั้งช่องทางการและส่วนตัว รัสเซียเชื่อด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐฯไม่สนใจผลประโยชน์ของชาติเพื่อนบ้านรัสเซียและพร้อมที่จะใช้ชาวยูเครนต่อสู้กับรัสเซียจนคนสุดท้าย

ส่วนนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกแถลงหลังมีเสียงวิจารณ์จากกองทัพเยอรมนีว่ากลัวนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย โดยระบุว่า รัฐบาลเยอรมนีอยู่ระหว่างกระบวนการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยให้แก่กองทัพยูเครน อย่างก่อนหน้านี้ก็มีการส่งปืนใหญ่อัตตาจร แพนเซอร์เฮาบิตเซอร์ 2000 และระบบปืนอัตโนมัติต่อต้านอากาศเกปาร์ด แต่ย้ำจุดยืนของรัฐบาลว่า จะไม่ดำเนินการใดๆที่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม กระนั้น สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่า นายโชลซ์ต่อสายหารือกับนายปูตินเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ย้ำว่าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อรัสเซียพร้อมบอกกับนายปูตินว่า การที่ยูเครนจะได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตจะไม่เกิดขึ้นภายในเวลา 30 ปีหลังจากนี้

...

วันเดียวกัน สื่อท้องถิ่นรัสเซียรายงานอ้างการเปิดเผยของคณะกรรมการสอบสวนถึงเหตุลอบพยายามลอบสังหารนายอเล็กซานเดอร์ ดูกิน บุคคลที่ถูกชาติตะวันตกชี้เป้าว่าเป็นที่ปรึกษาสายชาตินิยมจัดของประธานาธิบดีปูติน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และส่งผลให้ น.ส.ดาร์ยา ดูกินา ลูกสาวของเจ้าตัววัย 30 ปี เสียชีวิตแทน โดยระบุว่า จากการตรวจสอบพบรถยนต์ส่วนตัวของนายดูกินถูกลักลอบติดตั้งระเบิดแสวงเครื่องบริเวณใต้ที่นั่งคนขับและแรงอัดส่งผลให้ น.ส.ดูกินา ที่นำรถพ่อไปขับเสียชีวิตคาที่ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครอยู่เบื้องหลัง.