นักวิทย์ NOAA ของสหรัฐฯ ยังหาคำตอบไม่ได้ เจอรูปริศนาเรียงกันเป็นแถวใต้ก้นมหาสมุทรเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โพสต์เฟซบุ๊กถามความเห็น ได้คำตอบหลากหลาย มีทั้งอาจขุดโดยเครื่องจักร ไปจนถึงฝีมือเอเลี่ยน

เมื่อ 27 ก.ค. 65 เดลี่เมลรายงาน ทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ของสหรัฐฯ พบรูปริศนาจำนวนหนึ่งซึ่งไม่อาจอธิบายได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่บริเวณก้นมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งลึกจากผิวน้ำประมาณ 1.7 ไมล์ หรือประมาณ 2.73 กิโลเมตร โดยทีมนักวิทย์ NOAA ได้ตั้งคำถามกับบรรดาผู้ใช้งานทางเฟซบุ๊กให้ช่วยอธิบายหาคำตอบเกี่ยวกับรูปริศนาที่มีลักษณะทำให้เป็นจักๆ อย่างเป็นระเบียบเหล่านี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

‘เมื่อวันเสาร์ จากการส่งหุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำ Okenos พวกเราได้สังเกตเห็นรูหลายรูอยู่ที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานพบรูเหล่านี้แล้ว แต่ต้นกำเนิดของรูเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนา ในขณะที่รูเหล่านี้ดูเหมือนเป็นรูที่มนุษย์ทำขึ้น แต่กองทรายรอบๆ รูดูเหมือนพวกมันถูกขุดขึ้นมาด้วยอะไรบางอย่าง

รูปริศนาที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก
รูปริศนาที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก

...

‘สมมติฐานของคุณคืออะไร?’ ทีมนักสำรวจ NOAA ถามผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับรูปริศนาที่พบใกล้เทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่า 60 คน ซึ่งได้ตั้งทฤษฎีสมมติฐานที่ทำให้เกิดรูเหล่านี้แตกต่างกันไป โดยบางคนก็คิดว่า ‘อาจมีบริษัทหนึ่งมาทำการสำรวจเก็บตัวอย่างใต้มหาสมุทรแอตแลนติกก็เป็นได้’ ขณะที่บางคนก็คิดว่า ‘อาจเป็นปูที่ขุดรูเหล่านี้’ และมีบางคนคอมเมนต์ว่า ‘ไม่ได้บอกว่าเป็นเอเลี่ยน แต่มันคือเอเลี่ยน’

ทั้งนี้ นักสำรวจเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Voyage to the Ridge 2022 ของ NOAA ซึ่งเป็นการสำรวจแบบเป็นซีรีส์ 3 มหาสมุทรบนโลก รวมทั้งการทำแผนที่ และมีการส่งยานสำรวจใต้น้ำเพื่อที่จะสามารถเข้าใจได้มากขึ้นเกี่ยวกับบริเวณน้ำลึกรอบๆ เทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก

เทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก (Mid-Atlantic Range) คือ ตัวอย่างของแนวเปลือกโลกแยกตัว ซึ่งเทือกเขานี้มีความสูงมากเมื่อเทียบกับพื้นมหาสมุทรรอบข้าง โดยเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติกครอบคลุมความยาวเหนือ-ใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก และทอดยาวเป็นระยะทางนับ 1,000 ไมล์ จึงทำให้เป็นเทือกเขายาวที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าประทับใจมากที่สุดของโลก

Crภาพ : NOAA