ไซบีเรียมีเนื้อที่ 12.95 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าไทยประมาณ 24 เท่า ไซบีเรียติดกับมหาสมุทรอาร์กติก มหาสมุทรแปซิฟิก จีน และมองโกเลีย ชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกเป็นเขตทุนดราที่มีภูมิอากาศหนาวเย็นแบบขั้วโลก ทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้มีเทือกเขาเป็นจำนวนมาก แม่น้ำสายใหญ่เยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำอ็อบ เยนีเซย์ ลีนา อามูร์ คาตังกา ยานา อินดีกีร์คา โคลืยมา อะนาดีร์ ฯลฯ

สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีภาวะโลกร้อน แผ่นดินเหล่านี้หนาวเย็น ปลูกอะไรไม่ค่อยขึ้น รัสเซียก็ต้องขุดแต่ทรัพยากรธรรมชาติมาขาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ทองคำ ทองแดง มีไม้สนเยอะ รัสเซียจึงเป็นประเทศที่ส่งออกไม้แปรรูปรายใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนด้านการเกษตรก็ปลูกข้าวสาลีได้ในเฉพาะฤดูใบไม้ผลิสั้นๆ

หลังจากมีภาวะโลกร้อน แผ่นดินไซบีเรียอุ่นขึ้น มีพันธุ์ไม้หลากหลายงอกขึ้นบานเบอะเยอะแยะ พืชที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น แผ่นดินที่เคยปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่ได้ ตอนนี้ก็จึงปลูกได้ เดิมเมืองต่างๆในไซบีเรีย เคยใช้เป็นที่เนรเทศนักโทษที่ทำผิดในกรุงมอสโกและกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (สมัยยังเป็นเมืองหลวง) เมืองต่างๆ อย่างโนโวซีบีสค์ ออมสค์ ครัสโนยาสค์ อีร์คุตสค์ บาร์นาอุล โนโวคุชเนตสค์ เคเมโรโว ตอมสค์ ชีตา อูลัน-อูเด ฯลฯ แต่เดิมเคยเงียบเหงาราวกับป่าช้า ทว่าสมัยนี้ พออากาศอบอุ่นขึ้น (จากภาวะโลกร้อน) ข้าวปลาอาหารธัญพืชก็สมบูรณ์ เมืองขยายอย่างรวดเร็ว การเกษตรแปลงใหญ่ขยายจนรัสเซียเป็นผู้ส่งออกสาลีอันดับ 1 ของโลก (แต่เดิมไม่พอกิน)

24 กุมภาพันธ์ 2022 พอเกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน พวกตะวันตกก็ถือว่าได้เวลาเคาะระฆังชุมนุมสุมหัวกันหยุดยั้งความเจริญของรัสเซีย ด้วยการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และความช่วยเหลืออื่นๆ ไปให้อูเครนรบกับรัสเซียแทนพวกตน ด้านเศรษฐกิจก็ใช้มาตรการคว่ำบาตร ไม่ให้รัสเซียส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แถมมีการสกัดกั้นการส่งออกธัญพืชของรัสเซีย

...

กลางเดือนกรกฎาคม 2022 ไบเดนกลับมาจากซาอุดีอาระเบียมือเปล่า ไม่สามารถสั่งให้ซาอุฯผลิตน้ำมันเพิ่มได้ สหภาพยุโรปก็ประกาศยกเลิกการคว่ำบาตร รั้วที่ชุมนุมสุมหัวกันสร้างไว้เพื่อใช้ ล้อมรัสเซีย ปรากฏว่าดันล้อมตัวเอง อาหารการกินของพวกตัวเองกลับไม่พอ ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและอาหารแพงขึ้นทั้งโลก

ขณะที่เซเลนสกีและตะวันตกเป็นปลาซิวที่กระโดดกระย่องกระแย่งอวดโลกอยู่บนผิวน้ำ รัสเซียเป็นฉลามที่อยู่น้ำลึก กบดานอยู่อย่างนิ่งๆ รัสเซียรู้อยู่แก่ใจว่าไอ้พวกนี้ของปลอม ทรัพยากรอะไรก็ไม่มี น้ำมันและก๊าซธรรมชาติก็ไม่มี ยุโรปแต่ละประเทศก็มีพื้นที่เล็กกระจิริดกระจ้อยร่อยเท่ากับตำบลหนึ่งของรัสเซีย เอ็งจะเอาพื้นที่ที่ไหนปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารมาใส่กระเพาะ บั้นปลายท้ายที่สุดก็ต้องปลดล็อก

ลองดูทัศนคติของรัสเซียต่อการปลดล็อกของสหภาพยุโรปครับ นายเซรเก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียบอกโลกว่า “รัสเซียไม่ได้ขอร้องให้ปลดมาตรการคว่ำบาตร” แค่รัสเซียพูดประโยคนี้ สหรัฐฯและพวกตะวันตกก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน พวกเอ็งไปทะลึ่งคว่ำบาตรเขาเอง เอ็งไม่รู้ดอกหรือว่ารัสเซียเป็นเมล็ดพันธุ์ เอ็งดันขุดหลุมฝังเมล็ดพันธุ์ รุมกันใช้เท้ากลบเขาจนจมดิน เมล็ดพันธุ์ไม่ตาย แถมยังงอกขึ้นมาใหม่

รัฐมนตรีต่างประเทศลาฟรอฟพูดว่า “เวลานี้ รัสเซียแค่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของเราเอง โดยการพึ่งพาคู่หูที่ไว้วางใจได้ และไม่ใช่กับใครก็ตาม นี่เป็นการพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า พวกเขาไร้ศักยภาพโดยสิ้นเชิง” ประโยคนี้ลาฟรอฟพูดถึง ‘คู่หู’ ซึ่งไม่ได้บอกชื่อประเทศ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นจีน เบลารุส และอีกหลายประเทศที่ให้กำลังใจรัสเซีย ส่วนคำว่า ‘พวกเขา’ ในประโยคนี้ ผมเดาใจว่าลาฟรอฟพูดถึงสหรัฐฯ พันธมิตรนาโต และอียู ลาฟรอฟ ดูหมิ่นถิ่นแคลนว่าไอ้พวกนี้ไร้น้ำยา นี่คือการที่ลาฟรอฟลากสหรัฐฯและพวกมากระทืบกลางสี่แยก โดยมีประชาชนคนทั้งโลกรุมดู.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com