เจาะสาเหตุ สนามบินทั่วยุโรปโกลาหล ผู้โดยสาร-กระเป๋าตกค้าง ไฟลต์ดีเลย์

• การเดินทางในยุโรปช่วงนี้ดูจะเต็มไปด้วยอุปสรรค โดยยังพบเห็นรายงานข่าวกระเป๋ากองโตเท่าภูเขาตกค้างที่สนามบิน เที่ยวบินต่างๆ ที่ถูกยกเลิกนับหมื่นเที่ยว และมีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมากในหลายประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
• หากดูตัวเลขการยกเลิกเที่ยวบินแล้ว ข้อมูลของบริษัท RadarBox.com ชี้ว่าในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่าสหรัฐฯ ถึงกว่าเท่าตัว โดยระหว่างวันที่ 1 เมษายน-29 มิถุนายน สนามบินที่ถูกจัดลำดับว่าบริการแย่ที่สุดของยุโรป 10 แห่ง มีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วถึงกว่า 64,100 เที่ยวบิน ขณะที่สายการบินอเมริกันยกเลิกเที่ยวบินไปกว่า 21,000 เที่ยวบิน
• สาเหตุที่ยุโรปดูจะโกลาหลหนักหนาสาหัสกว่าทวีปอื่นๆ มีปัจจัยจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งปัจจัยหลักคือเรื่องขาดแคลนคนทำงาน ผลพวงมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวจนขาดคนทำงาน และอีกส่วนหนึ่งคือการปรับลดพนักงานในหลายส่วน ทำให้มีคนทำงานไม่เพียงพอ

นักเดินทางที่ต้องเดินทางไปมาในทวีปยุโรป คงต้องรับมือกับปัญหาความขัดข้องในการเดินทางไปอีกพักใหญ่ หลังมีรายงานข่าวกระเป๋ากองโตเท่าภูเขาตกค้างที่สนามบิน เที่ยวบินต่างๆ ที่ถูกยกเลิกนับหมื่นเที่ยว จนมีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมากในหลายประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น เป็นผลพวงระยะยาวจากทั้งการระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องหลายปี ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ เกิดการปรับลดคนในธุรกิจต่างๆ ซึ่งคงยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในระยะสั้น

ความโกลาหลในยุโรปเลวร้ายกว่าประเทศอื่นๆ?

นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนถึงช่วงวันหยุดวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคม สายการบินอเมริกันมีการยกเลิกเที่ยวบินไปกว่า 21,000 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 2.7% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด แต่หากเปรียบเทียบกับจำนวนเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกในประเทศฝั่งยุโรปแล้ว พบว่าในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่าสหรัฐฯ ถึงกว่าเท่าตัว โดยข้อมูลของบริษัท RadarBox.com เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 1 เมษายน-29 มิถุนายน สนามบินที่ถูกจัดลำดับว่าบริการแย่ที่สุดของยุโรป 10 แห่ง มีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วถึงกว่า 64,100 เที่ยวบิน

สาเหตุที่ยุโรปดูจะโกลาหลหนักหนาสาหัสกว่าทวีปอื่นๆ มีปัจจัยจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งปัจจัยหลักคือเรื่องของตัวบุคคล หรือเจ้าหน้าที่ที่ยังคงขาดแคลน ผลพวงมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวจนขาดคนทำงาน และอีกส่วนหนึ่ง คือการปรับลดพนักงานในหลายส่วนทำให้มีคนทำงานไม่เพียงพอ

และแม้สายการบินอเมริกันจะมีการปลดพนักงานออกในช่วงโรคระบาดเหมือนกัน แต่สายการบินอเมริกันกลับมาตั้งหลักได้เร็วกว่า โดยทั้งสายการบิน เดลตา ยูไนเต็ด และเซาท์เวสต์ เริ่มรับสมัครพนักงานใหม่ตั้งแต่กลางปี 2021 แล้ว ขณะที่สายการบินภายในประเทศก็เดินหน้ากลับมาให้บริการได้แล้ว เนื่องจากมาตรการคุมเข้มโรคระบาดสำหรับการเดินทางระหว่างรัฐนั้นไม่เข้มงวดมากนัก ทำให้จำนวนเที่ยวบินของสหรัฐฯ ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหมือนกับฝั่งยุโรป

พนักงานไม่พอและการผละงานประท้วงในสนามบินยุโรป

สนามบินของฝั่งยุโรปนั้นยังคงต้องเผชิญกับการขาดแคลนพนักงานอย่างรุนแรง โดยในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก ทั้งสนามบินและสายการบินมีการปลดพนักงานสูงถึง 191,000 คนทั่วยุโรป โดยข้อมูลของสมาพันธ์แรงงานด้านการขนส่งแห่งยุโรปที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนมกราคมปี 2021 พบว่าเฉพาะพนักงานของสนามบิน มีการเลย์ออฟ 58.5% ของพนักงานทั้งหมด โดยมีอย่างน้อย 23 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นตำแหน่งงานที่ซ้ำซ้อนกัน

จนในเวลานี้ เมื่อการท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 ทำให้ไม่มีพนักงานเพียงพอ ทั้งที่จุดดูแลสัมภาระ พนักงานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งถึงแม้หลายหน่วยงานจะเริ่มประกาศรับสมัครงานเพื่อหาคนทำงานทดแทน แต่เนื่องจากขั้นตอนในการสรรหาคนที่ทำงานด้านนี้จะมีกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มงวดและใช้เวลาตรวจสอบประวัติค่อนข้างนาน ประกอบกับสภาพการทำงานที่ไม่ค่อยจูงใจ ทำให้ไม่สามารถหาคนมาทำงานทดแทนได้ทันเวลา

โดยขณะนี้ยังมีรายงานแรงงานในภาคบริการออกมาประท้วงสภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีการประท้วงการตัดลดค่าตอบแทนในช่วงของโรคระบาดด้วย โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีรายงานว่า ลูกเรือของสายการบินไรอันแอร์ของสเปน ได้ประกาศหยุดงานประท้วง 12 วัน ขณะที่สายการบินอีซี่เจ็ตก็จะผละงานประท้วงนาน 9 วันด้วย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ที่ผละงานประท้วงไปก่อนหน้านี้ และสหภาพนักบินอิตาลีที่ขู่ว่าจะมีการยกระดับการเคลื่อนไหว หากไม่มีการพิจารณาดูแลสวัสดิภาพของพนักงานด้วย

เมื่อการเดินทางไปทวีปยุโรปฟื้นตัว แต่สายการบินยังไม่พร้อม

ปัญหาพนักงานขาดแคลน และความขัดแย้งทางด้านอุตสาหกรรม มาประจวบเหมาะกับการฟื้นตัวด้านการเดินทางในยุโรปพอดิบพอดี โดยข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลก UNTWO ระบุว่านักเดินทางที่มาจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ภายในปี 2022 และยุโรปจะเป็นทวีปแรกที่ฟื้นตัวก่อนเพื่อน โดยช่วง 3 เดือนแรกของปี 2022 ยุโรปมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมากขึ้นเกือบ 4 เท่า หรือคิดเป็น 280% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่สหรัฐอเมริกา มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า หรือเพิ่มขึ้น 117% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน

โดยสาเหตุที่ทำให้ยุโรปเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยม เพราะยุโรปเริ่มผ่อนคลายการคุมเข้มด้านโรคระบาดก่อนทวีปอื่น โดยมี 31 ประเทศในยุโรปที่ไม่มีกฎคุมเข้มเรื่อง COVID-19 ในการเข้าประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ แม้ว่าจะยังขาดความพร้อมด้านต่างๆ ก็ตาม

ด้านสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน และสคิปโพล ในอัมสเตอร์ดัม ต่างร้องขอให้สายการบินช่วยลดจำนวนเที่ยวบินลง ขณะที่สายการบินอีกจำนวนมากถูกบังคับให้ตัดเที่ยวบินออก เพราะไม่สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ แต่การตัดสินใจดังกล่าวก็สร้างความไม่พอใจให้แก่นักเดินทางเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่แค่สายการบินราคาประหยัดเท่านั้นที่ต้องตัดลดเที่ยวบิน แต่สายการบินบริติช แอร์เวย์ ต้องตัดลดเที่ยวบินไปถึง 8,000 เที่ยวในช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ลุฟท์ฮันซาต้องลดตารางบินในช่วงหน้าร้อนลงไปถึง 3,100 เที่ยว

เมื่อไหร่ความโกลาหลจะสิ้นสุดลง?

นักวิเคราะห์มองว่า ความโกลาหลนี้คงไม่จบลงง่ายๆ โดยสถานการณ์น่าจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดช่วงหน้าร้อนซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว เพราะผู้โดยสารยังคงเพิ่มจำนวนขึ้น และเจ้าหน้าที่ก็ไม่เพียงพอ แม้จะมีการรับสมัครงานเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่สามารถฝึกอบรมได้ทันตามความต้องการโดยเฉพาะตำแหน่งงานเฉพาะที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญพิเศษ อย่างการรักษาความปลอดภัย และพนักงานลำเลียงสัมภาระ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ก.ค.) สนามบินฮีทโธรว์ เพิ่งสั่งยกเลิกเที่ยวบิน 61 เที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารราว 10,000 คน และยังเตือนว่าสถานการณ์น่าจะซ้ำรอยเช่นนี้อีกตลอดช่วงหน้าร้อน เนื่องจากไม่มีศักยภาพพอที่จะรองรับกับจำนวนนักเดินทางจำนวนมหาศาลได้

เช่นเดียวกับสภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ที่คาดการณ์ว่าการดีเลย์ของเที่ยวบินต่างๆ จะเกิดขึ้นกับสนามบิน 2 ใน 3 ของสนามบินทั้งหมดในยุโรปในช่วงหน้าร้อนนี้ ดังนั้นผู้โดยสารที่ต้องการจะเดินทางเข้าออกยุโรปในช่วงนี้ อาจต้องเตรียมทำใจ ที่จะต้องเจอกับเที่ยวบินดีเลย์หรือถูกยกเลิกเที่ยวบินแบบกะทันหัน.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา : ยูโรนิวส์, สกายนิวส์, รอยเตอร์