สหประชาชาติ และรัฐบาลเงาของพม่า ประณามรัฐบาลทหารพม่านำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย สั่งย้ายซูจี ในวัย 77 ปีไปขังเดี่ยวในคุก
เมื่อ 24 มิ.ย. 65 เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงาน สหประชาชาติและรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) หรือรัฐบาลเงาของเมียนมา ออกมาเป็นผู้นำประชาคมโลก ประณามรัฐบาลทหารเมียนมา นำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่มีคำสั่งย้ายนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) วัย 77 ปี ไปขังเดี่ยวที่เรือนจำในกรุงเนปิดอว์ ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลทหารเมียนมาได้ควบคุมตัวนางซูจี ไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในกรุงเนปิดอว์มา นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลเมื่อ 1 ก.พ. 2564
สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 23 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติมีความเป็นห่วงนางซูจีอย่างยิ่งเพราะรัฐบาลทหารได้ทำทุกอย่างที่สวนทางกับสิ่งที่สหประชาชาติร้องขอ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ยอมปล่อยตัวนางซูจีและนักโทษการเมืองในเมียนมาทั้งหมด
ด้านอ่อง เมียว มิน รัฐมนตรีกระทรวงสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government (NUG)) ซึ่งถูกตั้งโดยคณะรัฐบาลพลัดถิ่นของเมียนมา เพื่อยุติการปกครองของรัฐบาลทหารเมียนมานำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้กล่าวกับนักข่าว This Week in Asia ในวันนี้ว่า การที่รัฐบาลทหารพม่าย้ายนางซูจีไปขังเดี่ยวในเรือนจำก็เพราะต้องการทำร้ายจิตใจของนาง
...
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของเอเอฟพีอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกว่าขณะนี้ นางซูจียังคงมีจิตใจที่มั่นคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังถูกย้ายไปขังเดี่ยวในเรือนจำ
สำหรับการสั่งย้ายซูจีไปคุมขังในห้องขังเดี่ยวที่เรือนจำในกรุงเนปิดอว์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่รัฐบาลทหารเมียนมานำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ปฏิบัติต่อนางซูจี ซึ่งถือเป็นผู้นำในการเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมามาหลายสิบปี และในระหว่างการปกครองโดยรัฐบาลทหารในช่วงก่อนนั้น นางซูจีได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักของนางในเมืองย่างกุ้ง
ในขณะที่การพิจารณาคดีนางซูจีที่ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาตั้งข้อหาหลายข้อหานั้น จนถึงขณะนี้ ศาลได้ตัดสินจำคุกนางซูจีรวมแล้วเป็นเวลา 11 ปี แต่หากศาลตัดสินว่านางซูจีกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาทั้งหมด จะต้องโทษจำคุก รวมแล้วเป็นเวลานานถึง 150 ปีเลยทีเดียว
ที่มา : Southchina Morning Post