สหภาพยุโรปลงนามบันทึกความเข้าใจกับอียิปต์และอิสราเอล เพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติและความช่วยเหลือด้านอาหาร หวังลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย

เมื่อวันพุธที่ 15 มิ.ย. 2565 นางเออร์ซูลา วอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเดินทางมายังกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เพื่อร่วมการประชุมว่าด้วยเรื่องก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมว่า อียิปต์และอิสราเอลจะเพิ่มการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้แก่สหภาพยุโรปภายใต้ข้อตกลงในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ทั้ง 3 ฝ่ายลงนามร่วมกัน

นางวอน แดร์ เลเยน ยอมรับว่า การทำ MOU ในครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ยุโรปกำลังหาทางกำจัดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย

ทั้งนี้ EU, อียิปต์ และอิสราเอล เคยทำข้อตกลงซื้อขายพลังงานมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ไว้แล้วในปี 2563 ซึ่งอิสราเอลจะส่งออกก๊าซธรรมชาติจากบ่อนอกชายฝั่งของตัวเองไปยังอียิปต์ เพื่อแปรสภาพเป็นของเหลวและขนส่งทางเรือไปให้แก่ประเทศต่างๆ ในยุโรป แต่นักวิเคราะห์มองว่าการเพิ่มการส่งออกก๊าซจากอิสราเอลผ่านอียิปต์เป็นจำนวนมากนั้น อาจจำเป็นต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว

ประธานคณะกรรมารธิการยุโรปยังให้คำมั่นว่า จะมอบความช่วยเหลือด้านอาหารมูลค่า 100 ล้านยูโรในทันทีให้แก่อียิปต์ ซึ่งกำลังประสบปัญหาธัญพืชขาดแคลน เนื่องจากเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย เนื่องจากพวกเขานำเข้าธัญพืชกว่า 80% จากทั้ง 2 ประเทศ และจะให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร, โภชนาการ, น้ำ และสุขอนามัย ในภูมิภาคอาหรับ มูลค่า 3 พันล้านยูโรในช่วงหลายปีข้างหน้า

“นี่คือก้าวใหญ่ไปสู่การจัดหาพลังงานแก่ยุโรป และเป็นก้าวใหญ่สำหรับอียิปต์ที่จะกลายเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาค” นางวอน แดร์ เลเยน กล่าว และเน้นย้ำถึงศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียนของอียิปต์ด้วย

...