อาณาจักร “เปอร์เซีย” หรืออิหร่านในปัจจุบัน แม้จะถูกบดบังรัศมีจากอิทธิพลของโลกตะวันตก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถือเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจในหลายแง่มุม

สาเหตุที่กล่าวเช่นนี้ มาจากวันก่อนทีมข่าวต่างประเทศมีโอกาสนั่งโต๊ะสนทนาร่วมกับนายคาเซม อาห์มาดี อัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย และนายมาร์เทซา โซลตานี เจ้าหน้าที่วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ และได้เห็นถึงความพยายามอย่างหนักที่จะกระชับสัมพันธ์ระหว่างอิหร่าน-ไทย ซึ่งดำเนินมานานกว่า 400 ปี

สิ่งที่นายอาห์มาดีเน้นย้ำตลอดเวลาในการสนทนา คือการที่ประชาชนทั้งสองยังไม่รู้จักกันอย่างลึกซึ้ง คนอิหร่านยังรับรู้ว่าเมืองไทยมีอะไร แต่คนไทยยังมองไม่เห็นภาพว่าอิหร่านเป็นเช่นไร ซึ่งการมองไม่เห็นภาพนี่เองคือสิ่งสำคัญ ส่งผลต่อไปยังเรื่องต่างๆ

โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวหรือการค้าขายระหว่างกัน ที่ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ดำเนินความสัมพันธ์กันมา อย่างจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปอิหร่านต่อปี อยู่ที่ประมาณ 60,000 คนเท่านั้น อิหร่านยังรับนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้เยอะกว่า แต่แน่นอนอย่างกรณีเกาหลีคือมีความเข้าใจกันในระดับที่ว่ารู้ว่าธุรกิจอะไรเกื้อหนุนต่อกัน อาทิ เกาหลีต้องการพลังงานเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม อิหร่านเข้ามาตอบโจทย์ตรงจุดนี้

ด้วยเหตุนี้อิหร่านจึงอยากมีความแน่นแฟ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมขอฝากเรื่องราวเกี่ยวกับอิหร่าน ในแง่มุมต่างๆอย่างวัฒนธรรมหรือการท่องเที่ยวมาทางสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยอยากให้คนไทยรู้จักอิหร่านมากขึ้น จะได้มีโอกาสเผยแพร่ “ซอฟต์ เพาเวอร์” อำนาจละมุนของประเทศ ซึ่งอิหร่านมองว่าคือ “ประชาชน”

...

ที่สำคัญทูตอิหร่านยังตอบคำถามเรื่องความกังวลเกี่ยวกับวีซ่า ว่าไปเยือนอิหร่านแล้วจะเดินทางไปยังชาติตะวันตกลำบาก เนื่องจากตะวันตกมีปัญหากับอิหร่านใช้มาตรการคว่ำบาตรไม่หยุดหย่อน โดยเรื่องนี้รัฐบาลอิหร่านพร้อมดำเนินการให้คนไทยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ขอเพียงแจ้งความประสงค์มาก็พอเรายินดี ดั่งคำว่าหากมีความตั้งใจ ก็ย่อมมีหนทาง

วันนี้เนื้อที่หมด ไว้โอกาสหน้าจะมารับใช้เรื่องอิหร่านกันอีกครับ **นอกเรื่องสักนิด ทีมข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดรับสมัครเพื่อนร่วมงานเพิ่ม ใครสนใจติดต่อได้ทางอีเมล werapod.i@thairath.co.th หรือโทร. 0-2127-1000#1421 หรือจะมาติดต่อด้วยตัวเอง ก็ไม่มีปัญหาครับ.

ตุ๊ ปากเกร็ด