29 เมษายน 1945 กองทัพแดงข้ามสะพานมอลท์เคอมากรุงเบอร์ลินของเยอรมนีได้ สร้างความตระหนกตกใจให้กับประชาชนคนเบอร์ลิน ผู้คนเยอรมันจำนวนไม่น้อยฆ่าตัวตายแทนการที่จะยอมตกเป็นเชลย
ฮิตเลอร์ตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยให้จอมพลเรือคาร์ล เดอนิทช์ เป็นผู้นำให้เกิบเบิลส์เป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากเขียนพินัยกรรมมอบทรัพย์สินเสร็จแล้ว ฮิตเลอร์ก็แต่งงานกับอีวา เบราน์ 30 เมษายน ฮิตเลอร์ให้อีวากินไซยาไนต์ฆ่าตัวตาย ส่วนตัวแกหยิบปืนพก 7.66 มม. จ่อยิงเข้าที่ขมับ ทันทีที่ฮิตเลอร์ตาย ฝ่ายเยอรมนีในกรุงเบอร์ลินพยายามเจรจาสงบศึก ทว่าล้มเหลว
1 พฤษภาคม ทหารโซเวียตได้รับคำสั่งว่า ทหารนายใดนำธงแดงที่มีสัญลักษณ์ค้อนเคียวไปปักเหนือตึกรัฐสภาของเยอรมนีได้ ทหารผู้นั้นจะได้รับอิสริยาภรณ์วีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือดเลือดพล่านระหว่างทหารแดงโซเวียตกับทหารเยอรมัน กระทั่ง 22.50 น. ทหารแดงจากกองพลปืนเล็กยาวที่ 150 จำนวน 2 นาย ขึ้นไปยืนเด่นเป็นสง่าบนหลังคารัฐสภา พร้อมทั้งโบกธงแดงค้อนเคียวสะบัดไสวไปมาได้ในที่สุด
เกิบเบิลส์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีให้ลูกทั้ง 6 คนดื่มยาพิษ จากนั้นก็สั่งให้ทหาร SS ยิงตัวเขาและภรรยา ล่วงมาถึง 2 พฤษภาคม 1945 ทหารแดงโซเวียตก็ยึดกรุงเบอร์ลินไว้ได้ทั้งหมด หน่วยเหนือสั่งให้ทหารแดงหยุดยิงในเวลา 03.00 น. บรรยากาศในกรุงเบอร์ลินเงียบเหงาราวกับป่าช้า 06.45 น. นายพลจูคอฟของเยอรมนียอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
ระหว่างที่ทหารแดงของโซเวียตกำลังสู้กับทหารเยอรมันนั้น ทหารอเมริกันปฏิบัติภารกิจอะไร? กองทัพที่ 9 ของกองทัพสหรัฐฯตั้งกำลังอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำเอลเบ เที่ยววิ่งไล่จับพวกทหารเยอรมันที่หนีข้ามแม่น้ำมา
ยุทธการปกป้องกรุงเบอร์ลิน ทหารและพลเรือนของเยอรมันตายไปมากกว่า 1 แสน บาดเจ็บ 2.2 แสน ถูกจับเป็นเชลย 4.8 แสน ทหารเยอรมัน 70 กองพล และรถถังแพนเซอร์ 12 หน่วย ถูกทำลายย่อยยับอับปางยุทธการยึดกรุงเบอร์ลิน ทหารโซเวียตตาย 8.1 หมื่น บาดเจ็บ 2.8 แสน รถถังพัง 1,997 คัน เครื่องบินพัง 917 ลำ อาวุธยุทโธปกรณ์เสียหายกว่า 2 หมื่นชิ้น
...
ส่วนทหารอเมริกันอยู่รอดปลอดภัย ไม่ค่อยทราบตัวเลขตายหรือบาดเจ็บ เพราะเพียงแต่ซุ่มกองกำลังที่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำเอลเบ ใช้กล้องส่องดูทหารโซเวียตกับทหารเยอรมันรบกันอยู่ไกลๆ ความที่อยู่ในสงครามมานาน การเสียเพื่อนทหารและการถูกโจมตีจากทหารเยอรมันทำให้ทหารโซเวียตแค้นเคืองคนเยอรมันอย่างมาก เมื่อยึดกรุงเบอร์ลินได้ ทหารแดงโซเวียตจึงฆ่าทำร้าย และข่มขืนประชาชนคนเยอรมันไปมากกว่า 1 แสน นี่เป็นชัยชนะบนซากศพของทหารรัสเซียและเยอรมันเกือบ 2 แสน เป็นสงครามที่ปราศจากความเมตตาปรานีไม่ว่าจากฝ่ายใดทั้งสิ้น
แม้กรุงเบอร์ลินจะถูกยึดได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ทว่าจอมพลเรือคาร์ล เดอนิทช์ คนที่ฮิตเลอร์ตั้งให้เป็นผู้นำก็ยังไปจัดตั้งรัฐบาลที่เมืองเฟลนส์บูร์ก และประกาศว่าเยอรมนีจะยังสู้ต่อไปในแนวรบด้านตะวันออกแต่แล้วก็สู้ไม่ไหว ต้องประกาศยอมแพ้โดยปราศจากเงื่อนไขในวันที่ 7 พฤษภาคม ผู้แทนเยอรมันลงนามในสัญญายอมแพ้ที่เมืองไรนส์ ทว่าสตาลินไม่ยอม เพราะในวันลงนามไม่มีทหารเรือและทหารอากาศ จอมพลเรือเดอนิทช์ก็ไม่ได้ลงนามด้วย สตาลินจึงสั่งให้ลงนามกันใหม่ในวันที่ 8 พฤษภาคม 1945 เวลา 22.25 น.
เวลาของกรุงเบอร์ลินกับกรุงมอสโกต่างห่างกัน ห้วงที่ลงนามในกรุงเบอร์ลินจึงตรงกับเวลา 00.25 น. ของ 9 พฤษภาคม 1945 ของกรุงมอสโก เมืองหลวงของสหภาพโซเวียต
มหาอำนาจพันธมิตรผู้ชนะสงครามสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฉลองวันแห่งชัยชนะ หรือ V-E Day (Victory in Europe) ในวันที่ 8 พฤษภาคม ส่วนสหภาพโซเวียตฉลองวันแห่งชัยชนะ หรือ V Day (Victory Day) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 1945
สงครามโลกครั้งที่ 2 ในยุโรปจบไปเกือบ 3 เดือน สงครามในแปซิฟิก ที่เราเรียกกันว่าสงครามมหาเอเชียบูรพาจบทันทีญี่ปุ่นยอมแพ้เมื่อ 15 สิงหาคม 1945 หลังจากที่โดนสหรัฐฯทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com