อิรักโดนพายุฝุ่นพัดถล่มเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 1 เดือน ทำให้ผู้คนล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลกว่า 5,000 ราย ท่ามกลางคำเตือนว่า อิรักอาจเผชิญพายุฝุ่นบ่อยขึ้น

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า อิรักถูกพายุฝุ่นเล่นงานเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 1 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ค. 2565 เป็นเหตุให้มีประชาชนมากกว่า 5,000 คนต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากปัญหาการหายใจ และพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ศพ

นาย ซาอิฟ อัล-บาดร์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของอิรักระบุว่า ในเมืองหลวงกรุงแบกแดดเพียงแห่งเดียว มีผู้ป่วยหายใจไม่ออกเข้าโรงพยาบาลแล้วกว่า 2,000 คน เขายังเตือนให้ผู้มีโรคประจำตัวเช่น หอบหืด หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ หลบอยู่แต่ในที่ร่มด้วย

นอกจากกรุงแบกแดดแล้ว จังหวัดทะเลทรายทางตะวันตกของประเทศอย่าง อันบาร์ และจังหวัดนาจาฟ ทางตะวันตกเฉียงใต้ ก็ได้รับผลกระทบจากพายุฝุ่นอย่างหนักเช่นกัน โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างหอบหืดหรือผู้สูงอายุ แต่ส่วนใหญ่ออกจากโรงพยาบาลได้หลังจากให้หมอให้ออกซิเจนหรือการรักษาอื่นๆ

...

ทั้งนี้ อิรักกำลังเผชิญพายุฝุ่นบ่อยครั้งขึ้น เชื่อว่ามีสาเหตุจากภาวะโลกร้อน โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของอิรักเตือนเมื่อเดือนก่อนว่า ภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า อิรักอาจเผชิญฝุ่นถึง 272 วันต่อปี และคาดว่าพายุฝุ่นจะเกิดบ่อยขึ้นเพราะความแห้งแล้ง, การตัดไม้ทำลายป่า และฝนที่ตกน้อยลง

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อิรักมีฝนตกลดลงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อุณหภูมิในฤดูร้อนมักพุ่งทะลุ 50 องศาเซลเซียส และตอนนี้อิรักมีปริมาณน้ำสำรองน้อยกว่าปีก่อนถึง 50% แล้ว ทำให้กระทรวงทรัพยากรน้ำออกมาเตือนว่า แม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส อาจแห้งเหือดภายในระยะเวลา 20 ปี