สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียถล่มโอเดสซาที่อยู่ปากแม่น้ำนีสเตอร์ โดยรัสเซียอ้างว่าถล่มจุดที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายตะวันตกส่งมาช่วยอูเครน ฝ่ายอูเครนบอกว่าอาวุธรัสเซียไปถล่มอพาร์ตเมนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และมีเด็กทารกด้วย
หากรัสเซียยึดโอเดสซาได้ อูเครนก็จะกลายเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล ผมมีความเชื่อว่าตัวละครต่อไปที่จะมาเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการสงครามก็คือสาธารณรัฐเบสซาราเบีย ซึ่งปัจจุบันชื่อว่าสาธารณรัฐมอลโดวาหรือที่บางคนเรียกว่ามอลเดเวีย ใครที่ชอบอ่าน
ประวัติศาสตร์และอยากจะทราบเรื่องทางแถบนี้ ต้องไปอ่านเรื่องของดินแดนทรานส์นิเตรียกับเบสซาราเบีย ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีความขัดแย้งในเรื่องพื้นที่ระหว่างมอลโดวากับอูเครน
ดินแดนแถบนี้เคยถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 รัสเซียเรียกดินแดนนี้ว่ามอลเดเวียใหม่ สำหรับพวกรัสเซีย เบสซาราเบียคือดินแดนฝั่งตะวันออกที่อยู่ระหว่างแม่น้ำพรูตและแม่น้ำนีสเตอร์เท่านั้น
ต่อมาประเทศนี้เปลี่ยนชื่อเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวีย พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็กลายเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวียและเป็น 1 ใน 15 ของสาธารณรัฐที่ประกอบกันเป็นสหภาพโซเวียต พอสหภาพโซเวียตล่มเมื่อ ค.ศ.1991 มอลเดเวียก็กลายเป็นประเทศเอกราชชาติใหม่มีชื่อว่า สาธารณรัฐมอลโดวา
มอลโดวามีพื้นที่เล็กกว่าภาคตะวันออกของไทย แต่ตรงแถวนี้สมบูรณ์ครับ มีแม่น้ำหลายสายผ่าน คนโซเวียตเรียกมอลเดเวียว่า ‘สวนของโซเวียต’ เพราะมีองุ่น ผลไม้ต่างๆ ยาสูบ และปศุสัตว์ ตอนกลางเป็นทุ่งหญ้าสเต็ปป์ ขอแนะนำนะครับ ว่าใครเป็นนักดูนก ผมว่ามอลโดวาเป็นประเทศที่มีนกมากหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มอลโดวาเป็นประเทศที่ไม่มีการชลประทาน เพราะมีฝนตกพอเพียงทุกปี
...
ถ้าไม่รวมดินแดนทรานส์นิเตรีย มอลโดวามีประชากรเพียง 2.5 ล้าน ผู้คนในประเทศนี้มีทั้งชาวมอลโดวา โรมาเนีย อูเครน แกกุช (เติร์กผสมพื้นเมือง) รัสเซีย บัลแกเรีย โปแลนด์ ฯลฯ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายอีสเทิร์นออร์ธอดอกซ์ เคยถูกปกครองโดยพวกเอเชียมองโกเลีย และตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมันนานถึง 300 ปี
ประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษของคนทางแถบนี้เป็นเรื่องการต่อสู้เพื่อให้เป็นอิสระจากมหาอำนาจ เช่น ให้เป็นอิสระจากจักรวรรดิออตโตมัน โดยบางช่วงก็มีรัสเซียมาช่วย ช่วยแล้วก็กลายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ความขัดแย้งในปัจจุบัน เกิดซ้ำกับประวัติศาสตร์เดิมทั้งนั้น คนสลาฟที่ใช้วัฒนธรรมรัสเซียมาอยู่ในการปกครองของพวกสลาฟอูเครน ซึ่งพวกอูเครนเคยถูกกดขี่โดยพวกรัสเซียมาก่อน ก็เล่นงานพวกที่ใช้วัฒนธรรมรัสเซียที่อยู่ในเขตดอนบัส รัฐบาลรัสเซียจึงต้องมาช่วย เหมือนกับในอดีต ทศวรรษ 1870 ตอนนั้นสลาฟในมณฑลบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาถูกปกครองโดยพวกมุสลิมออตโตมัน เมื่อโดนกดขี่มากๆ ก็อยากแยกตัวทำให้เกิดการประชุมที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล (ค.ศ.1876) และการประชุมที่กรุงเบอร์ลิน (ค.ศ.1878) ผลของการประชุมก็คือรัสเซียได้ยึดครองเบสซาราเบียอีกรอบและปกครองจนถึง ค.ศ.1917 ก็พวกจากมอลเดเวียและเบสซาราเบียนี่ละครับที่เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียสู้กับตุรกี บางคนก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาดูมาของรัสเซีย บางส่วนก็ช่วยกันวางแผนฆ่านักบวชรัสปูติน
พอรัสเซียเป็นคอมมิวนิสต์ ปูตินก็ประกาศตั้งดินแดนพรมแดนโรมาเนียทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำนีสเตอร์ในอูเครนเป็นจังหวัดปกครองตนเองมอลเดเวีย (ค.ศ.1924) ต่อมายกเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองสังคมนิยมโซเวียตมอลเดเวีย (ค.ศ.1924-1940)
แต่ละฝ่ายนำประวัติศาสตร์มาอ้างเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็รบกัน คอยดูเถิดครับ มอลโดวาอาจจะกลายเป็นประเทศวุ่นวายขายปลาช่อนอีกประเทศหนึ่ง.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com