เป็นที่ฮือฮา เมื่อ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีของโลกที่มีทรัพย์สินรวมกันกว่า 2.82 แสนล้านเหรียญ ประกาศการเข้าถือครองหุ้นของทวิตเตอร์ แค่ประกาศเท่านั้น ยังไม่ทันลงมือ หุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 25 ได้กำไรไปทันที 1 พันล้านดอลลาร์ เหนาะๆ

การที่ มัสก์ มีบทบาทที่จะเข้าไปบริหาร ทวิตเตอร์ กลายเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพย์สินไปโดยอัตโนมัติ เพราะคนทั่วโลกเชื่อมั่นในฝีมือการบริหารของ มัสก์ ว่าทำได้

ทวิตเตอร์เป็นโซเชียลมีเดียที่อยู่ในแถวหน้า แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้ทวิตเตอร์อยู่ในกลุ่มเฉพาะ แตกต่างจากยูทูบ เฟซบุ๊ก หรือติ๊กต๊อก ด้วยความที่เป็น อีลอน มัสก์ ทำอะไรก็มีคนติดตามในทวิตเตอร์มัสก์มีคนติดตามกว่า 80 ล้านคน ก็ต้องติดตามว่า ทวิตเตอร์ ที่มีมัสก์เป็นกรรมการบอร์ดจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด

ในจำนวนผู้บริหารระดับมหาเศรษฐีบนโลกใบนี้ มัสก์ คือคนที่เข้าใจ การตลาดดิจิทัล มากที่สุด สามารถเล่นกับ สื่อดิจิทัลได้อย่างเหมาะเจาะในแต่ละช่วงเวลาของเหตุการณ์ มัสก์ สามารถที่จะทำตัวให้เป็น คนหิวแสง ได้ตลอดเวลา การที่ มัสก์ เปลี่ยนโฟกัสจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจอวกาศ มาเป็นสื่อดิจิทัลย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

สิ่งที่ มัสก์ คิดอยู่ในใจไม่ใช่แค่การเข้าไป ถือหุ้นในทวิตเตอร์ แค่นั้น แต่ต้องมองว่าอิทธิพลของ สื่อดิจิทัล จะสร้างประโยชน์ทั้งพลังและอำนาจได้อีกมหาศาล

สำหรับบ้านเรามีนักธุรกิจการลงทุนที่มองถึงโลกของอนาคตอย่างทะลุปรุโปร่งอยู่หลายคนที่จะยกเป็นตัวอย่าง เป็นนักธุรกิจการลงทุน รุ่นที่ไม่ใหม่และก็ไม่เก่า สารัฐ รัตนาวดี ผู้บริหาร กัลฟ์ ที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า และมีการขยายการลงทุนไปสู่โลกภายนอกมากมาย โดยไม่มีขีดจำกัดแค่เรื่องของ พลังงานไฟฟ้าประเภทต่างๆเท่านั้น

...

แต่ยังมีธุรกิจด้านอาหาร อุตสาหกรรมต่างๆ ล่าสุด กัลฟ์ หันมาให้ความสนใจการลงทุนธุรกิจ เงินดิจิทัล ที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ เข้าร่วมลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิใหม่ที่ออกโดย BAM Trading ผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ในประเทศสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ Binance.US ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากและมีปริมาณวอลลุ่มการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ จำนวน 45 รัฐ มีเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการทั่วประเทศสหรัฐฯภายในสิ้นปีนี้

การระดมทุนของ Binance เพื่อใช้ในการเพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อรองรับในการขยายงาน เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และลงทุนซื้อกิจการที่มีศักยภาพในอนาคต

ที่น่าสนใจคือ กัลฟ์ หรือ กัลฟ์ อินโนวา เข้าร่วมลงทุนด้วยสัดส่วนร้อยละ 51 กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับพื้นฐานด้านดิจิทัลอยู่แล้ว อาทิ Gulf International Investment Limited เป็นบริษัทย่อยที่กัลฟ์ลงทุนร้อยละ 100 มีการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล BNB มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์

วิสัยทัศน์ยังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของผู้นำในวันนี้.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th