ไม่มีประเทศใดยืนอยู่ในสถานะมหาอำนาจโลกได้ตลอดไป มหาอำนาจเก่าเริ่มเสื่อม ก็จะเกิดมหาอำนาจใหม่ที่ท้าทายสถานะของมหาอำนาจเก่า จากนั้นก็จะเกิดสงครามใหญ่ เมื่อหมดสงครามใหญ่ก็จะเกิดมหาอำนาจใหม่และระบบโลกใหม่ เฉกเช่นในขณะนี้ สหรัฐฯเป็นมหาอำนาจ ขณะที่จีนและรัสเซียขยับใหญ่โตขึ้นมาท้าทายสหรัฐฯ หลังจากนี้ก็จะเกิดสงครามใหญ่ และหลังจากสงครามใหญ่ ก็จะเกิดมหาอำนาจใหม่และระบบโลกใหม่

ค.ศ.1792-1815 ฝรั่งเศสยุคนโปเลียนยิ่งใหญ่มาก กลุ่มประเทศที่ท้าทายก็คือ อังกฤษ ปรัสเซีย ออสเตรีย และรัสเซีย จากนั้นก็เกิดสงครามใหญ่ เมื่อหมดสงครามครั้งนั้นแล้ว ก็เกิดระบบโลกใหม่จากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาและระบบ Concert of Europe หรือความร่วมมือของยุโรป ค.ศ.1871-1914 มหาอำนาจในตอนนั้นคือ เยอรมนี ออสเตรีย และอาณาจักรออตโตมัน ส่วนกลุ่มประเทศที่ท้าทายอำนาจคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ หลังจากขัดแย้งกันอยู่พักหนึ่ง ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ค.ศ.1914-1918 ตามด้วยการประชุมสันติภาพที่แวร์ซายส์ และการรักษาความมั่นคงของโลกภายใต้ระบบสันนิบาตชาติ

ค.ศ.1933-1945 เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น มีอำนาจ ใช้อำนาจระรานประเทศอื่น ส่วนมหาอำนาจที่ท้าทาย 3 ประเทศที่ว่านี้คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส โซเวียต และสหรัฐฯ เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากกลุ่ม 3 ประเทศเดิมแพ้ ก็มีการประชุมสันติภาพที่พอร์สดัม เริ่มระบบการเงินการคลังโลกที่เบร็ตเตินวูดส์ และมีการรักษาความมั่นคงของโลกภายใต้ระบบสหประชาชาติ

ค.ศ.1945-1991 มหาอำนาจเก่าที่ร่วงโรยลงไปคือ เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และฝรั่งเศส อภิมหาอำนาจที่ผงาดขึ้นมาในช่วงนี้คือ สหรัฐฯและโซเวียต ระหว่างนี้ก็มีสงครามเย็น เกิดระบบโลกสองขั้วที่มีอาวุธนิวเคลียร์เป็นเครื่องมือต่อรอง ค.ศ.1992 เป็นต้นมา อภิมหาอำนาจเก่าที่ร่วงลงไปคือสหภาพโซเวียต หลังจากนั้น โลกก็เข้าสู่ระบบมหาอำนาจเดี่ยวคือ สหรัฐฯ จนกระทั่งไม่นานมานี้ จีนและรัสเซียเริ่มผงาดขึ้นมาท้าทายอำนาจของสหรัฐฯ

...

ค.ศ.2022 เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน โดยอูเครนเป็นเสมือนร่างทรงของสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตก หากอูเครนแพ้ ก็จะเกิด มหาอำนาจใหม่อย่างรัสเซียและจีน รวมทั้งการผงาดขึ้นมาของอินเดีย ความแข็งแกร่งของดอลลาร์จะลดน้อยลงไป New World Order ระบบโลกใหม่จะอุบัติขึ้น พวกเราชาวโลกที่มีชีวิตตอยู่ใน ค.ศ.นี้ จึงอาจจะมีโอกาสได้เห็นมหาอำนาจใหม่

หากรัสเซียแพ้สงครามในครั้งนี้ สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา จะผงาดใหญ่โตมโหฬารคุมโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากขึ้น

หากรัสเซียแพ้สงคราม ความยุ่งยากจะเกิดขึ้นทางพรมแดนรัสเซียตะวันตก และแถวตะวันออกไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งรัสเซีย-ญี่ปุ่น ก็อาจจะปะทุในช่วงที่รัสเซียโงนเงนโอนเอน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของรัสเซียคือ รัสเซียไม่มีคณะผู้นำที่แข็งแกร่งและโดดเด่น
ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย รัสเซียขาดผู้นำที่แข็งแกร่ง ปูตินก้าวเข้ามาบนเวทีผู้นำในจังหวะจะโคนที่ประเทศกำลังสับสนวุ่นวาย จนสุดท้ายปูติน “เอาอยู่”

ขณะที่สหรัฐฯชี้นิ้วสั่งประเทศโน้นชาตินี้ให้ช่วยอูเครน สั่งให้ประณามและคว่ำบาตรรัสเซีย ประเทศทั้งหลายต้องหาหนทางเอาตัวรอด หากทำตามสหรัฐฯ อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูประเทศของตนเองแย่แน่ โดยพวกยุโรปและประเทศอื่นที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย แต่หากประกาศต่อต้านสหรัฐฯและสนับสนุนรัสเซียกับจีนอย่างเต็มรูปแบบ ก็จะโดนสหรัฐฯเล่นงาน

ผู้นำประเทศที่จะสามารถนำชาติบ้านเมืองของตนเองไปรอดต้องเข้าใจตัวแสดงสำคัญและนโยบายต่างประเทศของรัฐมหาอำนาจ ต้องเข้าใจระบบโลกหรือระบบระหว่างประเทศต้องทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองของตัวเองอยู่รอดไม่ว่าโลกจะอยู่ในระบบขั้วอำนาจเดี่ยว ระบบสองขั้วอำนาจ หรือระบบหลายขั้วอำนาจ

พลังของไทยเพียงประเทศเดียวอาจจะมีไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องอาศัยพลังงานของกลุ่มประเทศ เราโชคดีที่อยู่ในประชาคมอาเซียนที่มีอำนาจต่อรองบนเวทีระหว่างประเทศมากพอสมควร การตอบรับหรือปฏิเสธคำสั่งหรือคำแนะนำที่มาจากมหาอำนาจ ถ้าทำในนามของกลุ่ม เราอาจจะปลอดภัยมากกว่า.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com