ประชาคมชาวโลกอาจหายใจโล่งอกได้บ้าง เมื่อมีรายงานข่าวชี้ว่า มีการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ประเทศเบลารุส เพื่อควบคุมไม่ให้การสู้รบลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามยืดเยื้อ นำโลกกลับคืนสู่ยุคหิน ยุคที่มนุษย์ต้องใช้หินล่าสัตว์ ก่อนที่จะเริ่มจัดระเบียบสังคม เมื่อ 4 พัน ถึง 6 พันปีก่อน

เมื่อเข้าสู่สังคมเกษตรในช่วงที่เรียกว่า “ยุคหินใหม่” มนุษย์ยุคหินจึงเริ่มจัดระเบียบแบบแผนสังคม เพื่อเป็นเครื่องกำหนดความประพฤติของสมาชิกในสังคม ก่อนที่จะมีการจัดระเบียบสังคม มนุษย์อาจแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังเป็นหลัก ใครต้องการอะไรก็ใช้กำลังยื้อยุดฉุดเอา จากนั้นสังคมมนุษย์จึงวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง

จนในที่สุดจึงมีองค์การที่เรียกว่า “สหประชาชาติ” เพื่อทำหน้าที่คล้ายกับเป็นรัฐบาลโลก แต่มติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ประณามการบุกยูเครนของรัสเซีย และให้ถอนกองทัพออกไปในทันที ไม่เป็นที่ยอมรับของประธานาธิบดีปูติน เพราะรัสเซียใช้สิทธิ์วีโต้หรือยับยั้งให้มติตกไป

แม้จะเป็นมติที่ได้รับการสนับสนุน จากสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงอย่างท่วมท้นถึง 11 ประเทศ จากทั้งหมด 15 ประเทศ งดออกเสียงอีก 3 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย จีน และสหรัฐอาหรับฯ มีเสียงคัดค้านเพียงเสียงเดียวคือ รัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรี จึงมีสิทธิ์วีโต้

การที่จีนงดออกเสียง ต้องถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะจีนเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย เข้าข้างปูตินมาตั้งแต่เกิดพิพาทกับยูเครน และโลกตะวันตก รัฐมนตรีต่างประเทศจีนชี้แจงว่า ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ไม่อยากเห็นสงคราม เพราะเป็นการโจมตี หรือสู้รบในเมืองใหญ่ๆ อาจทำให้ประชาชนเสียชีวิตและทรัพย์สิน

...

จีนมีปัญหาคล้ายกับรัสเซีย นั่นก็คือปัญหาไต้หวัน ซึ่งจีนถือว่าเป็นผืนแผ่นดินจีน ไม่ใช่เป็นแค่ประเทศบริวาร เหมือนกับยูเครนกับรัสเซีย สหรัฐอเมริกากับโลกตะวันตกก็โอบอุ้มไต้หวัน รัฐบาลไต้หวันก็แสดงท่าทีอย่างเปิดเผยว่าชอบประชาธิปไตยแบบโลกตะวันตก แต่จีนใช้ความอดกลั้นอดทน ไม่ยกทัพบุกยึดไต้หวัน

สงครามยูเครนต้องกระทบต่อโลกอย่างแน่นอน รวมทั้งประเทศไทย จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด มติคณะมนตรีความมั่นคงที่ส่งเรื่องให้สมัชชาใหญ่ ซึ่งมีสมาชิกเกือบ 200 ประเทศรับลูกต่อ รวมทั้งการคว่ำบาตรของโลกตะวันตก การลุกขึ้นมาต่อต้านสงครามของนานาชาติ รวมทั้งคนไทยและแม้แต่คนรัสเซีย จะทำให้ปูตินโดดเดี่ยวหรือไม่.