ยูเครนสั่งพลเรือนที่อาศัยหรือทำงานในรัสเซีย ให้รีบเดินทางออกมาในทันที และประกาศภาวะฉุกเฉินนาน 30 วัน หลังความตึงเครียดกับรัสเซียพุ่งสูงขึ้น

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 23 ก.พ. 2565 ทางการยูเครนออกคำสั่งให้พลเมืองของพวกเขากว่า 3 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในรัสเซียรีบเดินทางออกมาในทันที ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยยูเครนตัดสินใจเรียกทหารกำลังสำรองอายุระหว่าง 18-60 ปีทั้งหมด มาเสริมทัพ

ยูเครนออกคำสั่งดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่า ความก้าวร้าวของรัสเซียที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้พวกเขาให้ความช่วยเหลือทางกงสุลได้อย่างจำกัด นอกจากนั้นพวกเขายังประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันพุธ เพื่อให้อำนาจรัฐบาลในการปกป้องพลเรือนและประเทศยังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้มาตรการเคอร์ฟิวด้วยหากจำเป็น

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของยูเครนเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า รัสเซียอพยพสถานทูตในกรุงเคียฟพร้อมเชิญธงลงจากยอดเสา ขณะที่ทหารของรัสเซียขยับเข้าประชิดชายแดนของดินแดนที่กลุ่มกบฏในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครนยึดครองมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ส่งทหารเข้าไปเพื่อรักษาความสงบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ความกังวลว่ารัสเซียจะบุกโจมตียูเครนเพิ่มสูงขึ้นมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา หลังรัสเซียเสริมกำลังทหารใกล้ชายแดนยูเครนหลายด้าน และตอนนี้มีกำลังทหารมากกว่า 150,000 นายแล้ว ตามการประเมินของสหรัฐฯ แม้ว่ารัสเซียจะปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามาตลอดก็ตาม

แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ฉีกข้อตกลงสันติภาพในภาคตะวันออกยูเครนที่ทำไว้เมื่อปี 2558 ประกาศให้การยอมรับ ดินแดน 2 แห่งในภาคตะวันออกของยูเครน ที่กลุ่มกบฏฝักฝ่ายรัสเซียเข้ายึดครองแล้วประกาศแยกตัวในปี 2557 เป็นรัฐเอกราช เรียกเสียงประณามและการคว่ำบาตรรอบใหม่จากสหรัฐฯ และชาติยุโรป

...

ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกับสหรัฐฯ ยกเลิกแผนการประชุมร่วมกันรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ผู้นำสหภาพยุโรปได้รับคำเชิญให้ไปร่วมการประชุมสุดยอดวาระพิเศษที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม ในวันพฤหัสบดี เพื่อหารือเรื่องวิกฤติยูเครน

จดหมายของนาย ชาร์ลส์ มิเชล ถึงชาติสมาชิกคณะมนตรียุโรป ระบุว่า พฤติกรรมก้าวร้าวของรัสเซียละเมิดกฎหมายสากลและบูรณาภาพแห่งดินแดนกับอธิปไตยของยูเครน พฤติกรรมดังกล่าวยังบ่อนทำลายความมั่นคงของยุโรปอีกด้วย