บริษัทอีสต์แมน โกดัก จำกัด ตัดสินใจยื่นประกันหลักทรัพย์เพื่อให้ศาลคุ้มครองภาวะล้มละลายแล้ว หลังขาดทุนต่อเนื่องมานาน 3 ปี เพราะสู้ตลาดกล้องดิจิตอลที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆไม่ไหว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อ 19 ม.ค.บริษัทอีสต์แมน โกดัก จำกัด ผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปและฟิล์มติดอันดับรายใหญ่ของโลก ตัดสินใจยื่นประกันหลักทรัพย์เพื่อให้ศาลคุ้มครองภาวะล้มละลาย หลังสู้การแข่งขันตลาดกล้องดิจิตอลไม่ไหวจนขาดทุนมาตลอด 3 ปี ปิดตำนานผู้บุกเบิกกล้องและการถ่ายภาพมายาวนานกว่า 130 ปี ตั้งแต่นายจอร์จ อีสต์แมน นักประดิษฐ์พัฒนากล้องถ่ายรูปรุ่นแรก “บราวนี่” จนประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย และยังติดอันดับนวัตกรรมใหม่ในด้านการพิมพ์ภาพของสหรัฐฯ

นายแอนโตนิโอ เปเรซ ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เผยว่า ทางคณะกรรมการผู้บริหาร พร้อมทีมบริหารจัดการระดับอาวุโสทั้งหมดเชื่อมั่นในทิศทางเดียวกันว่าถึงเวลาที่โกดักจำเป็นต้องก้าวต่อไปและกระทำในสิ่งที่ดีสุดเพื่ออนาคตขององค์กร โดยจุดประสงค์ของเราคือมุ่งให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด รวมถึงพนักงาน พนักงานเกษียณ เจ้าหนี้และผู้ดูแลกองทุนเงินชดเชย

...

อย่างไรก็ดี ทางโกดัก ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่ที่เดอะ โรเชสเตอร์ เขตตอนใต้ของรัฐนิวยอร์ก ยังพอประคับประคองการดำเนินกิจการ ระหว่างปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายล้มละลายมาตรา 11 รวมถึงจ่ายเงินเดือนพนักงานที่เหลืออยู่ 19,000 ตำแหน่ง โดยได้รับเครดิตวงเงิน 950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเวลา 18 เดือน จากบริษัทซิตี้กรุ๊ป แม้โกดักเองก็พยายามเร่ขายสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีดิจิตอลจำนวน 1,100 รายการ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ข่าวระบุโกดักเคยว่าจ้างบริษัททนายความ โจนส์ เดย์ เพื่อปรึกษาการปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อเดือน ก.ย.ปีกลาย ซึ่งครั้งนั้นมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่มีหนี้สิน 6,750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่างมองว่าโกดักก็ปรึกษาเรื่องภาวะล้มละลายด้วย นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์นครนิวยอร์กเผยเมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า โกดักอาจถูกคัดออกจากราคาแลกเปลี่ยนการถือหุ้น หากไม่สามารถดึงราคาหุ้นให้กลับขึ้นมาเกิน 1 เหรียญสหรัฐฯ จากเดิมที่หลุดจาก 30 อันดับสุดยอดดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2547 ทั้งที่เคยทำราคาหุ้นพุ่งถึง 80 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อปี 2539.