รัสเซียกับเบลารุส เริ่มการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่แล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าพวกเขาจะยกทัพบุกยูเครน ขณะที่ รบ.เคียฟ ออกมาโวยว่าการซ้อมรบขวางเส้นทางเดินเรือพาณิชย์

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. 2565 กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศเริ่มการซ้อมรบร่วมกันระหว่างกองทัพของพวกเขากับเบลารุสแล้ว ภายใต้ชื่อรหัสว่า ‘Allied Resolve-2022’ โดยจะดำเนินการเป็นระยะเวลา 10 วัน จนถึง 20 ก.พ. มีเป้าหมายเพื่อฝึกซ้อมการหยุดยั้งและขับไล่การรุกรานจากภายนอก, ต่อต้านก่อการร้าย และปกป้องผลประโยชน์ของรัฐสหภาพ (Union State) ของพวกเขา

เชื่อกันว่านี่เป็นการส่งกองกำลังไปเบลารุสครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น โดยนายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่ของนาโต ระบุว่า กองกำลังดังกล่าวประกอบด้วยหน่วยรบราว 30,000 นาย, กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ สเปตส์นาซ, เครื่องบินรบหลากหลายรุ่นรวมถึง ซู-35, ระบบมิสไซล์คู่ อิสกันดาร์ และระบบต่อต้านอากาศยาน เอส-400

อย่างไรก็ตาม การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณชายแดนเบลารุสติดกับยูเครน ซึ่งมีความยาวเกิน 1,000 กม. เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่ามกลางความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครนที่กำลังคุกรุ่น หลังรัสเซียส่งกองกำลังจำนวนมากไปประจำการที่ชายแดนฝั่งของพวกเขา ทำให้ชาติตะวันตกเกิดความกังวลว่ามอสโกกำลังวางแผนบุกโจมตียูเครน แม้รัฐบาลเครมลินจะปฏิเสธมาตลอด

นอกจากนั้น รัสเซียยังประกาศให้พื้นที่ขนาดใหญ่ของทะเลอาซอฟ และทะเลดำ เป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย เนื่องจากพวกเขาจะฝึกซ้อมยิงจรวดและปืนใหญ่ ระหว่างวันที่ 14-19 ก.พ. ส่งผลให้ยูเครนออกมาประท้วงว่า การกระทำดังกล่าวจะกีดขวางเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ ขณะที่กองทัพเรือยูเครนประณามว่า เป็นการละเมิดอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ปี 1982 อย่างชัดเจน และเรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือ

...

ด้านรัสเซียยืนกรานปฏิเสธว่าการซ้อมรบจะปิดกั้นเส้นทางเดินเรือ โดยนายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน ระบุว่า การเดินทางและความเคลื่อนไหวของเรือรบรัสเซียในทะเลดำเป็นไปตามข้อจำกัดในกฎหมายการเดินเรือระหว่างประเทศ.