วิเคราะห์กองทัพอากาศยูเครน มีอะไรเป็นเขี้ยวเล็บสำคัญ พร้อมรับมือภัยคุกคามทางอากาศระดับไหน หากต้องป้องกันประเทศด้วยตัวเอง หลังรัสเซียเคลื่อนทัพประชิดชายแดนภาคตะวันออกจนทำสถานการณ์ตึงเครียด

ท่ามกลางวิกฤติความตึงเครียดที่บริเวณพื้นที่ชายแดนระหว่างยูเครนและรัสเซีย หลังกองทัพรัสเซียเสริมกำลังทหารกว่า 1 แสนนาย และยุทโธปกรณ์จำนวนมาก มาตรึงกำลังประชิดบริเวณชายแดนติดกับภาคตะวันออกของประเทศยูเครน แน่นอนว่าแม้ว่าเรื่องดังกล่าวทางรัสเซียเองอ้างว่า การเคลื่อนกำลังทหารไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทั้งที่มาจากการซ้อมรบ และการสับเปลี่ยนกำลังของหน่วยต่างๆ ที่รัสเซียสามารถทำได้ตลอดเวลา แต่ทางยูเครนก็มีการซ้อมรบรวมกับชาติตะวันตก รวมทั้งการที่ยูเครนที่เคยเป็นหนึ่งสหภาพโซเวียตหันหน้าไปสร้างความร่วมมือกับทางอียู และต้องการร่วมเป็นสมาชิกของกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต นั่นทำให้ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ไม่ค่อยแฮปปี้กับเรื่องนี้นัก เพราะหากยูเครนทำได้ก็เหมือน โดนเอารถถังจอดริมรั้วหลังบ้านไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

กองทัพอากาศยูเครน ฝึกนักบินรบด้วย ซู-27 ยูบีเอ็ม 1 แบบ 2 ที่นั่ง
กองทัพอากาศยูเครน ฝึกนักบินรบด้วย ซู-27 ยูบีเอ็ม 1 แบบ 2 ที่นั่ง

...

แต่ในมุมของชาติตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตรนาโต มองสถานการณ์ชายแดนยูเครน เป็นความตึงเครียดระดับสูงสุด ที่ต้องให้ความกังวล เพราะยูเครนคือประตูที่เชื่อมระหว่างรัสเซีย และภูมิภาคยุโรปตะวันออก ที่สหรัฐฯ เชื่อว่ารัสเซียอาจต้องการผนวกดินแดนยูเครนกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวเอง เหมือนกับที่เมื่อปี 2557 รัสเซียได้ยึดไครเมียกลับมาเป็นของตัวเอง ทั้งนี้ ประเทศยูเครนเป็นประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ก่อนจะแยกตัวเป็นเอกราชภายหลังการล่มสลายของค่ายหลังม่านเหล็ก ในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 หากรัสเซียได้ยูเครนไปเท่ากับว่า ภูมิภาคนี้จะย้อนกลับไปเหมือนสมัยสงครามเย็น ที่สหรัฐฯ คงยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ จึงต้องทำทุกทางทั้งการร่วมกับชาติพันธมิตรยุโรปกดดันทางการค้า การคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียนำทหารออกไปจากชายแดนยูเครน แต่นี่ก็เป็นเกมวัดใจของรัสเซียที่อยาก ดวงกับชาติตะวันตกโดยมีชะตากรรมของยูเครนเป็นเดิมพัน

ดังนั้น ในโอกาสนี้ จึงอยากจะขอนำเสนอเรื่องราวของ กองทัพอากาศยูเครน และกำลังป้องกันภัยทางอากาศ ที่เป็นหน้าด่านสำคัญที่จะสกัดกั้นและรับมือกับภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมพร้อมต่อแรงกดดัน จากสถานการณ์ชายแดนรัสเซียที่ดูตึงเครียด หากมีความขัดแย้งและมีการสู้รบเกิดขึ้น กองทัพอากาศย่อมเป็นกำลังสำคัญที่จะชี้ว่า ใครจะเป็นผู้ได้เปรียบในการรบ และ ป้องกันกองกำลังภาคพื้นดิน จึงลองมองวิเคราะห์ว่า หากยูเครนจำเป็นต้องปกป้องตัวเองหากมีการรุกราน ยูเครนจะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอย่างไรก็ตาม ประเทศของใคร ใครก็รักและหวงแหน และย่อมอยากจะสู้ด้วยตัวเองมากกว่ารอความช่วยเหลือจากชาติอื่นๆ

เครื่องบินซู-27 แบบ 2 ที่นั่งของ ทอ.ยูเครน ทะยานขึ้นสู่ฟ้าเพื่อฝึกบิน
เครื่องบินซู-27 แบบ 2 ที่นั่งของ ทอ.ยูเครน ทะยานขึ้นสู่ฟ้าเพื่อฝึกบิน

กองทัพอากาศยูเครน หลังสงครามเย็น จุดตั้งต้นใต้เงาโซเวียต

สำหรับกองทัพอากาศยูเครน ก่อตั้งเมื่อ 17 มี.ค. ค.ศ.1992 ภายหลังจากแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตฐานทัพหน่วยทหารได้รับโอนมาจากสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ยังได้รับยุทโธปกรณ์จากยุคสงครามเย็นมามากมาย ทำให้กองทัพอากาศยูเครนในยุคแรก มีทั้ง เครื่องบินขับไล่ มิก-21 มิก-23 มิก-25 เครื่องบินขับไล่-โจมตี มิก-27 เครื่องบินโจมี ซุคฮอย ซู-17, ซุคฮอย เครื่องบินสกัดกั้น ซู-15, เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิด ยาโคเลฟ ยัค-28, เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลความเร็วเหนือเสียง ตูโปเลฟ ตู-160 แบล็กแจ็ก, เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ พิสัยไกล ตูโปเลฟ ตู-95 แบร์, เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ไอพ่นความเร็วเหนือเสียงปีกพับได้ ตูโปเลฟ ตู-22M แบ็คไฟร์, ตูโปเลฟ ตู-22 ไบลน์เดอร์, เครื่องบินทิ้งระเบิดไอพ่น ตูโปเลฟ ตู-16 แบดเจอร์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินลำเลียงโดยสารแบบ ตูโปเลฟ ตู-154 (Tupolev Tu-154) และ ตูโปเลฟ ตู-134 (Tupolev Tu-134) ด้วย

กองทัพอากาศยูเครนที่ตั้งขึ้นใหม่ในขณะนั้น ได้รับมรดกสำคัญมาจากโซเวียต คือ เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ความเร็วเหนือเสียงที่ทันสมัยที่สุดในยุคสงครามเย็น คือ ตูโปเลฟ ตู-160 แบล็กแจ็ก (Tupolev Tu-160 Blackjack) ที่เคยประจำการในหน่วยบินทิ้งระเบิดที่ 184 ซึ่งประจำการอยู่ที่ Pryluky อย่างไรก็ตาม ในเดือน เม.ย.ปี ค.ศ.1998 ยูเครนได้ตัดสินใจที่จะเริ่มทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีดังกล่าว ภายใต้ข้อตกลงการลดการคุกคามแบบร่วมมือ (Nunn-Lugar Cooperative Threat Reduction) ที่วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ แซมนันน์ จากรัฐจอร์เจีย (พรรคเดโมแครต) และริชาร์ด ลูก้า วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน รัฐอินเดียนา เป็นผู้เสนอ เพื่อช่วยเหลือรัสเซียและอดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆ ในการรื้อถอนและกำจัดพวกเขาอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงปี 1990 ในเดือน พ.ย.ปีเดียวกัน เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-160 ตัวแรกถูกทำลาย ในเดือน เม.ย. ปี ค.ศ.1999 ทันทีหลังจากที่นาโต้เริ่มโจมตีทางอากาศต่อเซอร์เบีย รัสเซียก็กลับมาเจรจากับยูเครนเกี่ยวกับเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์อีกครั้ง

...

คราวนี้รัสเซียเสนอซื้อคืน Tu-160 จำนวน 8 ลำ และ Tu-95MS สามรุ่นที่ผลิตในปี 1991 (ซึ่งอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด) รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป 575 Kh-55MS ในที่สุดก็บรรลุข้อตกลงและลงนามในสัญญามูลค่า 285 ล้านเหรียญ โดยจะถูกหักออกจากหนี้ค่าก๊าซธรรมชาติ โดยยูเครนยังมีเครื่องบินตูโปเลฟ ตู-22, ตูโปเลฟ ตู-22เอ็ม และตูโปเลฟ ตู-95 ประจำการในกองทัพอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต อย่างไรก็ตาม เครื่องบินทั้งหมดก็ถูกทำลาย ยกเว้นเพียงไม่กี่ลำที่นำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เครื่องบินทิ้งระเบิด ตู-16 และ ตู-22M เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ถูกทำลายภายใต้สนธิสัญญา Conventional Forces in Europe 

มิก-29 ยูบีเอ็ม1 กองทัพอากาศยูเครน
มิก-29 ยูบีเอ็ม1 กองทัพอากาศยูเครน

...

ก้าวสู่สหัสวรรษใหม่ ยูเครนต้องพัฒนากองทัพในความขาดแคลนและจำกัด

เมื่อพ้นยุคปี 2000 กองทัพอากาศยูเครนก็เปลี่ยนไป หลังจากที่ปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ และทิ้งระเบิดจากสมัยสงครามเย็นไปจนหมด อย่างไรก็ตามยูเครนมีการปรับปรุง เครื่องบินลำเลียงขนาดกลาง และระบบมิสไซล์ต่อต้านอากาศยาน หรือ จรวดแซม ให้ยืดอายุการใช้งาน และทันสมัยมากขึ้น อาทิ ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานทางยุทธศาสตร์ S300 และ ระบบป้องกันภัยทางอากาศพร้อมเรดาร์ตรวจจับ และชุดยิงมิสไซล์เคลื่อนที่ บุค เอ็ม 1 (Buk M1)  อาวุธปล่อยต่อต้านอากาศยานนำวิถีแบบ 2K12 KUB ที่เป็นรุ่นก้าวหน้าของ แซม-6 หรือ SA-6 เกนฟูล 

มิสไซล์ 9K37M1 บนระบบต่อต้านอากาศยาน Buk M1 ของยูเครน
มิสไซล์ 9K37M1 บนระบบต่อต้านอากาศยาน Buk M1 ของยูเครน

ทอ.ยูเครน มีการพัฒนาระบบคอมมานด์แอนด์คอนโทรล (2C) ระบบแจ้งเตือนภัยทางอากาศ รวมทั้งจัดหาอากาศยานเครื่องบินโจมตีไอพ่นยุคที่ 3 แบบ ซู-24 เฟนเซอร์ และ ซู-25 ฟร็อกฟุต เครื่องบินขับไล่ไอพ่นยุคที่ 3 แบบ มิก-29 ฟัลครัม กับ ซู-27 แฟลงก์เคอร์ จากรัสเซีย และ เครื่องบินฝึกไอพ่น L-39 อัลบาทรอส จากสาธารณรัฐเช็ก โดยในปี 2005 ยูเครนมีแผนจัดซื้อมิก-29 และซู-27 รุ่นใหม่จากรัสเซีย แต่ด้วยการขาดงบประมาณทำให้ต้องล้มเลิกไป แต่ในภายหลังได้มีโครงการปรับปรุง เพื่อยืดอายุใช้งาน โดยมีการสำรองซู 27 บางส่วนไว้เป็นอะไหล่เพื่อซ่อมกินตัว เอาอะไหล่จากเครื่องอื่นมาใส่ให้กับเครื่องที่ยังบินได้ เนื่องจากมีปัญหากับรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 ทำให้จัดหาอะไหล่ได้ยาก

...

ระบบฐานยิง S-300 ในการป้องกันภัยทางอากาศ
ระบบฐานยิง S-300 ในการป้องกันภัยทางอากาศ

ขีดความสามารถพร้อมรบของ ทอ.ยูเครน และหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ

สตีเฟน แบลงค์ อาวุโสของสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศ The Atlantic Council’s Eurasia ได้วิเคราะห์สถานภาพของกองทัพอากาศยูเครนว่า นับตั้งแต่ปัญหาความขัดแย้งจากการรุกรานของรัสเซียในปี 2014-2015 จากนั้นผ่านมา 7 ปี กองทัพอากาศยูเครนเผชิญปัญหาความพร้อมรบของเครื่องบินที่มีประจำการ จากปัญหาการขาดแคลนอะไหล่เครื่องบินรัสเซียที่ใช้งาน ทำให้เครื่องบินจำนวนมากต้องถูกจอดทิ้งไว้บนพื้นและบางส่วนนำเอามาเป็นอะไหล่ซ่อมกินตัว เป็นปัญหาสำคัญในการพัฒนากองทัพระยะยาว แต่กองทัพอากาศที่มีขนาดค่อนข้างเล็กนี้ก็สามารถสร้างความสูญเสียต่อกองทัพลูกผสมของรัสเซีย ทั้งกองกำลังตามแบบแผน ทหารรับจ้าง และคนในท้องถิ่นที่หันไปเข้าร่วมกับรัสเซีย มีรายงานว่าการโจมตีทางอากาศบางส่วนได้สังหารทหารรัสเซียจำนวนมาก

มอสโกตอบโต้โดยแอบส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศอย่าง มิสไซล์ Buk M1 ไปยังภูมิภาค Donbas ทางตะวันออกของยูเครนที่ถูกยึดครอง ระบบหนึ่งดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการยิงเครื่องบินพลเรือน MH17 ในเดือนกรกฎาคม 2014 และเครื่องบินทหารของยูเครนจำนวนมากถูกยิงด้วยเช่นกัน เนื่องจากชาวยูเครนมักบินด้วยเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ชำรุดหรือล้าสมัย

ระบบเรดาร์ตรวจจับเป้าหมายทางอากาซของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศยูเครน
ระบบเรดาร์ตรวจจับเป้าหมายทางอากาซของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศยูเครน

ยูเครนไม่ได้นิ่งเฉยต่อเรื่องนี้ พวกเขาพยายามอัปเกรดเครื่องบินมิก-29 และซู-27 ด้วยการยกเครื่องใหม่ มีการฝึกนักบินรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาการขาดแคลนอะไหล่ หากไม่สามารถทำวิศวกรรมย้อนกลับเพื่อทำขึ้นเองได้ ก็ไปควานหาอะไหล่จากตลาดมืดแบบลับๆ แต่ทั้งนี้ กองทัพอากาศยูเครนยังอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ เพราะการปฏิบัติงานภายใต้ข้อจำกัด

กำลังทางอากาศของยูเครนมีความสามารถระดับใด

สตีเฟน แบลงค์ อาวุโสของสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศ วิเคราะห์ต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำกองทัพอากาศยูเครนยอมรับว่าภายในปี 2030 เครื่องบินขับไล่ส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่สามารถใช้งานได้ ในขณะเดียวกัน มอสโกก็ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของกองทัพอากาศยูเครน และคุกคามยูเครนด้วยการโจมตีทางอากาศ ด้วยเครื่องบินขับไล่ใหม่ล่าสุดของรัสเซีย อาทิ ซู-35 แฟลงเคอร์-อี หรือ ซู-30 SM2 แฟลงก์เคอร์รุ่น 2 ที่นั่ง ที่มีขีดความสามารถทั้งการรบในอากาศและโจมตีภาคพื้นดิน ซู-24 เฟนเซอร์ กับ ซู-35 ฟร็อกฟุต ที่เป็นรุ่นใหม่กว่ายูเครน และอาจนำเอา ซู-57 เฟล่อน ที่เป็นเครื่องบินขับไล่สเตลธ์มาใช้ด้วย ทั้งนี้เครื่องบินส่วนใหญ่ถูกประจำการในเครือข่ายสนามบินในบริเวณรอบพรมแดนของรัสเซียที่ติดยูเครนได้ตลอด

เครื่องบินฝึกไอพ่น แอล-39 อัลบาทรอส ทอ.ยูเครน
เครื่องบินฝึกไอพ่น แอล-39 อัลบาทรอส ทอ.ยูเครน

กำลังทางอากาศที่ดีที่สุดของยูเครนในปัจจุบัน คือ กองบิน 2 กองที่มีกำลัง ซู-27 แฟลงก์เคอร์ ประมาณ 50 ลำ ซึ่งเทียบเท่ากับ เอฟ-15 ซี อีเกิ้ล เครื่องบินขับไล่ครองอากาศของสหรัฐฯ เชื่อกันว่ายังมีบินได้อยู่ประมาณ 30 เครื่อง เป็นเครื่องบินพร้อมรบที่มีขีดความสามารถในการใช้อาวุธในระยะนอกสายตานำวิถีด้วยเรดาร์ อย่าง เอเอ-10 อะลาโม และระยะใกล้แบบ เอเอ-11 อาเชอร์ อันดับต่อไปของมันคือกองบิน ซู-24 เฟนเซอร์ ที่สามารถใช้อาวุธอัจฉริยะ เช่น ระเบิดนำวิถี อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศ-สู่-พื้น รวมทั้งรับบทบาทเป็นเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศได้โดยติดกระเปาะถังน้ำมัน อย่างดีที่สุดปัจจุบันเชื่อว่าเครื่องบินเหล่านี้ประมาณ 30 ลำยังบินอยู่

ซู-25 ฟร็อกฟุต กองทัพอากาศยูเครน
ซู-25 ฟร็อกฟุต กองทัพอากาศยูเครน

เครื่องบินขับไล่ที่มีมากที่สุดของยูเครน คือ มิก-29 ฟัลครัม ที่มีสมรรถนะในการสกัดกั้นทางอากาศและโจมตีภาคพื้นดินได้ในแบบจำกัด เทียบเท่ากับ เอฟ-16 ของสหรัฐฯ ในที่สุด จำนวน 3 กองบินราวๆ 50 ลำ รวมทั้ง ซู-25 ฟร็อกฟุต เครื่องบินไอพ่นโจมตีและสนับสนุนทางอากาศแบบใกล้ชิด จำนวน 1 กองบินราว 17 ลำ ที่รับหน้าที่ในการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินด้วยระเบิดและจรวดไม่นำวิถี เพื่อสนับสนุนทหารราบและยานเกราะภาคพื้นดิน

ซู-27 แฟลงก์เคอร์ กองทัพอากาศยูเครนกำลังปล่อยพลุความร้อนเป้าลวง
ซู-27 แฟลงก์เคอร์ กองทัพอากาศยูเครนกำลังปล่อยพลุความร้อนเป้าลวง

นักวิเคราะห์มองว่า ยูเครนขาดความสามารถในการป้องกันทางอากาศที่สำคัญ เช่น การเตือนล่วงหน้าและการควบคุมทางอากาศ เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศขนาดใหญ่ ระบบดาต้าลิงก์ดิจิทัล สำหรับเครือข่ายเหล่านี้ อาวุธยุทโธปกรณ์อัจฉริยะที่ทันสมัย ขีปนาวุธร่อนทางอากาศ และกระเปาะลาดตระเวนและชี้เป้าหมาย รวมไปถึงการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ การก่อกวนเรดาร์ และระบบเป้าลวงมิสไซล์รุ่นใหม่ๆ

โอกาสที่ต้องรบกันมีหรือไม่

ซู-24 เฟนเซอร์ เครื่องบินโจมตีไอพ่นที่ดีที่สุดของ ทอ.ยูเครน
ซู-24 เฟนเซอร์ เครื่องบินโจมตีไอพ่นที่ดีที่สุดของ ทอ.ยูเครน

โอกาสที่จะเกิดการสู้รบเป็นระดับสงครามในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากในเวทีโลกใครก็ตามที่ส่งทหารเข้ายูเครนก่อนย่อมกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก ทั้งสหรัฐฯ หรือ อังกฤษ และ รัสเซีย แต่นักวิเคราะห์ต่างมองว่า พื้นที่ตรงนี้ เป็นเหมือนพื้นที่แสดงอำนาจของผู้นำจากโลกทั้ง 2 ฝ่าย โดยท่าทีที่ชัดเจนของรัสเซีย คือ ไม่ต้องการให้นาโตเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศที่อยู่รอบๆ รัสเซีย โดยเฉพาะอดีตประเทศที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียต การต่อสู้หลักๆ อยู่ที่การเจรจาทางการทูต และการต่อรองทางเศรษฐกิจ ไม่มีใครบ้าส่งทหารไปสู้รบให้เลือดนองแผ่นดินกันง่ายๆ

เครื่องบินขับไล่หลักที่ดีที่สุดของ ทอ.ยูเครน ซู-27 แฟลงก์เคอร์
เครื่องบินขับไล่หลักที่ดีที่สุดของ ทอ.ยูเครน ซู-27 แฟลงก์เคอร์

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว France 24 ก็ได้มีบทความที่ถามความเห็นนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญด้านรัสเซีย ยุโรปตะวันออก ถึงปัญหาชายแดนยูเครน ที่สรุป คือ การที่จะให้ยูเครนรับมือรัสเซียลำพัง ก็ไม่ต่างจากเดวิดสู้ยักษ์โกไลแอธ ยูเครนไม่อาจยันการบุกแบบเต็มรูปแบบได้แน่นอนด้วยกำลังที่มี และต้องร้องขอการช่วยเหลือจากนาโตอย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครอยากบุกยูเครนให้กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาคนทั้งโลก ไม่ว่าจะฝ่ายรัสเซียเอง เดียวกันกับชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับ ปธน.โจ ไบเดน การส่งทหารไปทำสงครามในยุโรปตะวันออกเช่นกัน แม้แต่เยอรมนีก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการส่งอาวุธสนับสนุนยูเครน อีกทั้งประเด็นการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมายุโรปก็มีความจำเป็นในช่วงฤดูหนาวคงไม่เป็นผลดี หากมีการรบในเวลานี้ ที่สำคัญยูเครนและรัสเซียยังมีความพึ่งพาอาศัยกันมากกว่า การพึ่งพาจากชาติตะวันตก การบุกยูเครนไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายใดๆ

ทอ.ยูเครน ฝึกเตรียมพร้อมรับมือภับคุกคามตลอดเวลา
ทอ.ยูเครน ฝึกเตรียมพร้อมรับมือภับคุกคามตลอดเวลา

ในความเห็นส่วนตัว ยังเชื่อว่าความตึงเครียดบนชายแดนยูเครนและรัสเซีย ยังสามารถเจรจาตกลงผ่อนคลายลงได้ หากมีความจริงใจในการแก้ปัญหา ระหว่างสหรัฐอเมริกาที่เป็นหัวหอก กับกลุ่มนาโต และ รัสเซีย แต่ความตึงเครียดนี้ ก็มองได้เช่นกันว่า อาจจะเป็นหนึ่งในงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่นำมาวัดกำลังเหมือนเซียนท้าดวงในวงไพ่ แต่ยูเครนที่เป็นพื้นที่กลางวงขัดแย้ง จากนี้ก็อาจจะต้องเสริมกำลังรบใหม่ มีการเปลี่ยนแปลง ไม่พึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์จากรัสเซียอีกต่อไป แต่คงต้องมองหาตัวเลือกจากชาติยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะได้ไม่ติดล็อกเหมือนที่ผ่านมา แม้ทหารยูเครนใจสู้ ฝึกหนักเพื่อพร้อมปกป้องประเทศ แต่ถ้าอาวุธไม่อาจสู้ได้อย่างทัดเทียม ก็ไม่อาจทำให้ใครๆ เกรงใจได้จริงๆ...

ผู้เขียน : จุลดิส รัตนคำแปง

ที่มาข้อมูล : เฟซบุ๊ก หน่วยบัญชาการกองทัพอากาศของยูเครน (Командування Повітряних Сил ЗСУ / Air Force Command of UA Armed Forces) , วิกิพีเดีย กองทัพอากาศยูเครน, สำนักข่าว France24, Atlantic Council

ที่มาของภาพ : เฟซบุ๊ก กองประชาสัมพันธ์ หน่วยบัญชาการกองทัพอากาศของยูเครน