ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ออกมาเตือนถึงการเผชิญหน้ากันของประเทศมหาอำนาจอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงตามมา โดยเป็นคำกล่าวช่วงเปิดการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ซึ่งจัดในรูปแบบทางออนไลน์อีกครั้งเป็นปีที่ 2 ด้วยสถานการณ์โควิด-19

ทั้งนี้ ผู้นำสีปกป้องนโยบาย “เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ของตัวเอง ที่มีจุดประสงค์ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนให้แคบลง ที่รัฐบาลจีนมองว่าเป็นภัยคุกคามจนทำให้ต้องกำราบธุรกิจด้านเทคโนโลยี ด้านติวเตอร์และธุรกิจบันเทิง เพราะความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันที่รัฐบาลจีนต้องการคือการทำพายให้ใหญ่ขึ้น แล้วจัดสรรแบ่งปันอย่างเหมาะสม ทุกคนจะได้รับอย่างเป็นธรรมจากการพัฒนาอันเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคนในหนทางที่เท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ ผู้นำสียังเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจต่างๆเลิกล้มแนวคิดแบบสงครามเย็นเชิงจิตวิทยาที่กำลังตึงเครียดในระดับภูมิภาคมากขึ้น เพื่อพยายามหาทางอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งหลายฝ่ายเข้าใจได้ว่าหมายถึงสหรัฐฯ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไม่ลงรอยกันหนักขึ้นในหลายเรื่องตั้งแต่ประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน สิทธิทางการค้า สิทธิมนุษยชน รวมถึงพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้.