สาธารณสุขฮ่องกงเร่งค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมสั่งเรือสำราญที่มีผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเดินทางไปด้วยกลับเข้าฝั่ง เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน
ฮ่องกงยกระดับมาตรการคุมเข้ม เพื่อให้การระบาดของโควิด-19 เป็นศูนย์อีกครั้ง หลังจากถูกตีไข่แตก เจอกับผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนในประเทศรายแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่นั้นทางการก็เร่งติดตามแกะรอยผู้สัมผัสใกล้ชิด เพื่อปูพรมตรวจคัดกรองหาเชื้อ ป้องกันการระบาดที่จะลุกลามไปในชุมชน
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นจุดเริ่มต้นการระบาดระลอกนี้ ได้เต้นรำกับเพื่อนๆราว 20 คน ในเซ็นทรัล ปาร์ก คืนส่งท้ายปีเก่า ซึ่งพบว่า 2 คนในกลุ่มเพื่อนดังกล่าวมีผลตรวจเป็นบวก และ 1 ในนั้นทำงานเป็นแม่บ้าน ซึ่งมีโอกาสกระจายเชื้อไปสู่ครอบครัวที่เธอทำงานอยู่ด้วย นอกจากนี้แม่บ้านรายดังกล่าว และญาติสนิทอีก 8 คน ยังไปล่องเรือสำราญโดยไม่มีจุดหมาย บนเรือสำราญ สเปคตรัม ออฟ เดอะ ซี เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีกำหนดเดินทางกลับเข้าฝั่งในวันที่ 6 มกราคมนี้ด้วย โดยเรือสำราญที่ให้บริการในฮ่องกงต้องปฏิบัติตามมาตรการคุมเข้มก่อนหน้านี้อย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ทั้งข้อจำกัดในการออกเดินทางในน่านน้ำใกล้เคียง ต้องลดจำนวนผู้โดยสารบนเรือ รวมทั้งผู้ที่จะไปใช้บริการได้จะต้องเป็นผู้ที่รับวัคซีน และมีผลการตรวจเชื้อเป็นลบแล้วเท่านั้น
...
ซึ่งหลังจากที่มีการแจ้งจากหน่วยงานสาธารณสุขให้เร่งกลับเข้าฝั่งก่อนกำหนด ผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยงทั้ง 9 คน ก็ถูกแยกกักตัวจากผู้โดยสารคนอื่นๆ อีกราว 2,500 คน และพนักงานอีก 1,200 คน โดยมีการตรวจเชื้อเบื้องต้น แต่พบว่ายังมีผลเป็นลบทั้งหมด ก่อนที่เรือจะกลับเข้าท่าก่อนกำหนดในวันพุธตามเวลาในท้องถิ่น โดยจะมีการนำตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 9 คน ไปยังศูนย์กักตัวบนฝั่ง ขณะที่ผู้โดยสารที่เหลือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่บนเรือ จะต้องผ่านกระบวนการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดในช่วง 2-3 วันนี้ ก่อนที่จะอนุญาตให้กลับขึ้นฝั่งได้ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีการประกาศคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ที่ผู้ป่วยได้เดินทางไปรวม 47 แห่งในฮ่องกง ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ต้องเข้าไปตรวจคัดกรองหาเชื้ออย่างเคร่งครัด โดยสถานที่ดังกล่าว ได้แก่ วิคตอเรีย ปาร์ค พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เอ็มพลัส ที่เพิ่งเปิดใหม่ ท่าเรือเฟอร์รี่ ร้านอาหาร คลินิก และสถานที่ต่างๆ อีกหลายแห่ง ตามประกาศของทางการด้วย.
ที่มา :แชนแนลนิวส์เอเชีย