• ทางการจีนคุมเข้มอุตสาหกรรมไลฟ์สตรีม (Live-Stream) ครอบคลุมไปถึงคอนเทนต์และเสื้อผ้าที่พิธีกรสวมใส่ จัดระเบียบวงการไลฟ์สดที่มีมูลค่าทะลุ 2.3 ล้านล้านบาท 
  • การเติบโตของวงการไลฟ์สดจีนทำให้ถูกจับตามากเป็นพิเศษ ทางการลงดาบอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง หวงเวย ฐานเลี่ยงภาษี ปรับเงินมูลค่า 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7,047 ล้านบาท และระงับบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมด 
  • รัฐบาลจีนไม่ได้คุมเข้มเพียงแค่อีคอมเมิร์ซเท่านั้น แต่ยังมีการควบคุมโรงเรียนสอนพิเศษ บริษัทเทคโนโลยี และวงการบันเทิง รัฐบาลจีนมองว่าภาคเอกชนบางส่วนนั้นสร้างปัญหากระทบต่อเสถียรภาพของสังคม โดยภาคส่วนที่ถูกจับตามากที่สุดคือเศรษฐกิจดิจิทัล การเงินออนไลน์ และบิ๊กดาต้า (Big Data)

หน่วยงานของทางการจีนออกนโยบายเพื่อควบคุมการไลฟ์สตรีมมิง หรือการถ่ายทอดสด ซึ่งถูกเรียกสั้นๆ ว่าการไลฟ์สด ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในแง่ความบันเทิงและอีคอมเมิร์ซ โดยได้มีการร่างกฎเกณฑ์ที่เรียกว่าเป็น 'มาตรฐานกลาง' สำหรับการไลฟ์สตรีมเพื่อขายของออนไลน์ กฎดังกล่าวครอบคลุมถึงคำพูดและการแต่งกายซึ่งต้องเป็นไปตามหลักจริยธรรม นอกจากนี้ยังเตรียมใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เพื่อโปรโมตเพียงคอนเทนต์แง่บวกและค่านิยมหลักของสังคมนิยมเท่านั้น ด้านสำนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของจีนเอาจริงโดยระบุว่าจะมีการกวาดล้างการไลฟ์สดที่ไม่ตรงตามกฎเกณฑ์ของทางการ

...

ทางการจีนไม่ได้เพียงแต่คุมเข้มอีคอมเมิร์ซ แต่ยังมีการควบคุมโรงเรียนสอนพิเศษ บริษัทเทคโนโลยี และวงการบันเทิง ซึ่งรัฐบาลจีนได้กล่าวโทษว่าภาคเอกชนนั้นเป็นตัวการสร้างปัญหาสังคมกระทบต่อเสถียรภาพของสังคม ซึ่งภาคส่วนที่ถูกจับตามากที่สุดคือเศรษฐกิจดิจิทัล การเงินออนไลน์ และ บิ๊กดาต้า (Big Data)

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่วงการไลฟ์สดในประเทศจีนถือว่าอยู่ในขาขึ้น มี วล็อกเกอร์ส (Vloggers) ทำคอนเทนต์ขายของรวมถึงแลกกับของขวัญจากแฟนๆ จำนวนมาก โดยในเดือนมีนาคม 2563 มีชาวจีนชมการไลฟ์สดมากถึง 560 ล้านคน นับว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าประชากรของสหรัฐอเมริกาทั้งประเทศเสียอีก นอกจากนี้เมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ที่เข้าชมการไลฟ์สด เมื่อเดือนมิถุนายนของปีก่อนหน้าซึ่งมีเพียง 126 ล้านคน ก็เป็นตัวที่ชี้ให้เห็นว่าวงการไลฟ์สดในจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ชมการไลฟ์สดเชิงอีคอมเมิร์ซเพื่อการช็อปปิ้งออนไลน์

การเติบโตของวงการไลฟ์สดจีนทำให้ทางการจับตามากเป็นพิเศษ ล่าสุดทางการจีนเอาจริงได้ลงดาบอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง หวงเวย ในฐานเลี่ยงภาษี พร้อมปรับเงินมูลค่ามหาศาล และปิดบัญชีทั้งหมดของเธอ 

จีนคุมเข้มกำหนดกฎการไลฟ์สดจากทางการ 

กระทรวงพาณิชย์จีน ได้ควบคุมการไลฟ์สดครอบคลุมถึงสิ่งที่ผู้ไลฟ์สดพูดและสวมใส่ โดยได้มีการร่างกฎเกณฑ์ที่เรียกว่าเป็น 'มาตรฐานกลาง' สำหรับการไลฟ์สตรีมมิงเพื่อขายของออนไลน์ กฎดังกล่าวครอบคลุมถึงคำพูดและการแต่งกายซึ่งต้องเป็นไปตามหลักจริยธรรมเพื่อไลฟ์สตรีมหน้ากล้อง และแพลตฟอร์มต่างๆ ต้องเปิดทางให้ผู้บริโภครีวิวสินค้านั้นๆ และคำรีวิวต้องเป็นสาธารณะ สามารถให้ผู้บริโภคคนอื่นนำไปประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำให้พิธีกรหน้ากล้องควรพูดภาษาจีนกลาง และต้องมีความซื่อสัตย์ในการขายสินค้า 

หากพิธีกรที่ทำการไลฟ์สดทำผิดกฎที่ตั้งไว้จะต้องถูกตักเตือนและลงโทษจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งรวมไปถึงการจำกัดจำนวนผู้เข้าชม แบน ขึ้นบัญชีดำ หรือปิดบัญชีที่ทำผิดกฎ ด้านกระทรวงฯ ระบุว่า กฎเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้จะสร้างระบบอีคอมเมิร์ซ์ที่ส่งผลดีต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้ให้บริการไลฟ์สตรีม ต้องไล่เรียงรายชื่อประเภทสินค้าและบริการที่คาดว่าผิดกฎหมายและไม่สมควรทำการขายผ่านการไลฟ์สดส่งให้แก่ทางหน่วยงานกำกับดูแลบริหารไซเบอร์สเปซของจีน หรือ ซีเอซี

...

จีนลงดาบราชินีไลฟ์สดเลี่ยงภาษี

อินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่ของจีน หวงเวย หรือ วิยา วัย 36 ปี เป็นที่รู้จักในนาม 'ไลฟ์สตรีมมิง ควีน' มีผู้ติดตามหลายล้านคน ได้ถูกปรับเป็นเงินมูลค่า 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7,047 ล้านบาทฐานเลี่ยงภาษี และถูกระงับบัญชีโซเชียลมีเดียทั้งหมด นับเป็นการลงโทษด้วยการปรับเงินมูลค่ามากที่สุดของวงการไลฟ์สตรีมมิงจีน

รายงานระบุว่าระหว่างปี 2562 ถึง 2563 หวงเวยได้เลี่ยงภาษีเป็นเงินมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,355 ล้านบาท โดยการรายงานรายได้จากการไลฟ์-สตรีมขายของเป็นเท็จ หน่วยงานกำกับภาษีในนครหางโจว ระบุว่า หากหวงเวย สามารถจ่ายภาษีและค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนดเธอจะไม่ถูกดำเนินคดีทางอาญา แต่หากไม่สามารถทำได้หวงเวยจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

หวงเวย มีผู้ติดตามหลายล้านคนบนสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่างเว่ยป๋อ เถาเป่า และติ๊กต๊อก ซึ่งก่อนที่บัญชีของเธอจะถูกปิดไป ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า เธอรู้สึกผิด และพร้อมที่จะรับผลกระทบจากการกระทำผิดของตน และหลังจากนั้นบัญชีทั้งหมดได้ถูกแบนและถูกปิด โดยที่ไม่มีใครทราบชะตากรรมของหวงเวยหลังจากนั้น

...

 

วงการไลฟ์ตรีมมิงจีนมาแรง 

การไลฟ์-สตรีม เพื่อขายของออนไลน์ในประเทศจีนเริ่มได้รับความนิยมเมื่อปี 2559 ซึ่งพ่อค้าแม่ขายที่มีลีลาการขายถูกใจแฟนๆ สามารถขายของได้เยอะก็จะได้รับทั้งค่าคอมมิชชัน และรางวัลจากแฟนๆ ส่วนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นปัจจัยที่มาเปลี่ยนเทรนด์ในหลายด้าน มีทั้งธุรกิจที่ต้องปิดตัว และผุดธุรกิจใหม่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในขณะที่โรงภาพยนตร์และสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิงต้องปิดทำการชั่วคราว ทำให้ผู้คนหันมาใช้โทรศัพท์กันมากขึ้น ส่งผลให้เทรนด์การไลฟ์สดมาแรง โดยอุตสาหกรรมการไลฟ์สตรีมมิงในจีนนั้นมีมูลค่ามากถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งทางการจีนเองก็เล็งเห็นช่องทางที่ประชาชนใช้ทำมาหากิน และได้ยกย่องวงการไลฟ์สตรีมมิง ในแง่ของการแก้ปัญหาการว่างงานและเป็นส่วนกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

เมื่อทางการจีนได้หันมาควบคุมวงการบันเทิงและอีคอมเมิร์ซอย่างจริงจังเส้นทางของอุตสาหกรรมไลฟ์สตรีม ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอาจต้องชะลอตัว และมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วนทางการจีนชี้ว่าการคุมเข้มการไลฟ์สตรีมมิงนั้นเป็นการสร้างระบบที่ดี และป้องกันเนื้อหาในแง่ลบ พร้อมทั้งระบุว่า แพลตฟอร์มต่างๆ จำเป็นต้องยึดมั่นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เผยแพร่เนื้อหาแง่บวก เที่ยงตรง สวยงาม และชัดเจน.

...

ผู้เขียน: นัฐชา กิจโมกข์ (Nattachar K.)

ที่มา: CNN, CNNVariety, SCMP