การประชุมว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง COP26 ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. ถึง 12 พ.ย. นี้ ยิ่งถูกจับตามากขึ้น หลังมีรายงานว่า หลายประเทศมีการ “ล็อบบี้” เพื่อไม่ต้องลดผลประโยชน์ทางพลังงาน
โดยกรณีนี้ เดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ฝากเน้นย้ำมาว่า ควรถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่ COP26 จะพาเราออกจากขั้นตอนเจรจา และเริ่มลงมือแก้ปัญหากันเสียที
“โลกกำลังร้อนขึ้นเพราะฝีมือมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อ 5 ปีที่แล้วที่กรุงปารีส ประชาคมโลกได้ร่วมกันตัดสินใจว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างและวางเป้าหมายที่ดูเหมือนจะสูงส่งเกินไปแต่ก็จำเป็น นั่นก็คือการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส และพยายามที่จะลดเพดานให้เหลือเพียง 1.5 องศา การเพิ่มของอุณหภูมิแค่ไม่กี่องศานี้จะส่งผลยิ่งต่อชีวิตของเรา สำหรับร่างกายของมนุษย์ ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิที่ 40 และ 42 องศาคือเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตาย”
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทำให้เราตระหนักว่าการสร้างสังคมที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลยนั้นไม่ใช่แค่ความฝัน สังคมที่ว่านี้จะขับเคลื่อนด้วยการสร้างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกินเพดานที่กำหนด อย่างเมื่อเดือน ก.ค. สหภาพยุโรปแผนแม่บทเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคมของสหภาพยุโรป ไปปฏิบัติให้บรรลุผล หรือแผนกรีน ดีล (Green Deal)
เป้าหมายคือลดก๊าซเรือนกระจกลง 55% ภายในทศวรรษหน้า และทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 การปรับเปลี่ยนวิถีที่เราใช้เพื่อผลิตและบริโภคพลังงาน เดินทาง ปลูกสร้างและวางระบบปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน รวมทั้งใช้ที่ดินนั้น จะเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุดเพื่อไม่ให้ใครต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า
...
สมาชิกของอียูปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกันเพียง 8% ของที่ถูกปล่อยทั้งหมดในโลก เราจึงไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้โดยลำพัง เมื่อเราประกาศความมุ่งมั่นที่จะปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 น้อยคนเชื่อว่าประเทศอื่นๆจะทำตาม ในวันที่เราประกาศแผนแม่บท Green Deal ไม่มีใครเชื่อว่าเราจะทุ่มงบประมาณให้แก่แผนนี้มากถึงขนาดต้องไปกู้ยืมเงินจากแหล่งอื่น (แผนมูลค่า 528,000 ล้านยูโร หรือกว่า 20.4 ล้านล้านบาท)
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เราประสบตลอดฤดูร้อนที่ผ่านมา ล้วนแต่มีสาเหตุมาจากเรื่องนี้ทั้งสิ้น นอกจากภัยพิบัติเหล่านั้นจะเป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์ในธรรมชาติแล้ว ยังจะทำให้พื้นที่บางส่วนของโลกไม่เหมาะต่อการอยู่อาศัยของมนุษย์อีกด้วย.
ตุ๊ ปากเกร็ด