บริษัทเมอร์คในสหรัฐฯ เตรียมยื่นขออนุมัติใช้ยาเม็ด โมลนูพิราเวียร์ รักษาโควิด ในทันทีที่เป็นไปได้ หากได้รับอนุมัติจะทำให้กลายเป็นยาเม็ดรักษาโควิดชนิดแรกของโลก
เมื่อ 2 ต.ค. 64 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการพัฒนายาต้านโรคโควิด-16 เมื่อบริษัทเมอร์ค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ในสหรัฐฯ กำลังสร้างความหวังให้กับชาวโลก เตรียมที่จะยื่นขออนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉินในการใช้ยาเม็ดแบบรับประทานรักษาโควิด-19 ที่มีชื่อเรียกว่า 'โมลนูพิราเวียร์' จากทางการสหรัฐฯโดยทันทีที่เป็นไปได้ และหากได้รับการอนุมัติ จะทำให้ยาโมลนูพิราเวียร์ ถือเป็นยาเม็ดแบบรับประทานชนิดแรกของโลกในการรักษาอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ที่ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วกว่า 4.55 ล้านศพ
บริษัทเมอร์ค และบริษัทหุ้นส่วน Ridgeback Biotherapeutics แถลงว่า ทางบริษัทเมอร์ค และ Ridgeback Biotherapeutics เตรียมที่จะขออนุมัติการใช้ยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ เป็นกรณีฉุกเฉินจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ต่อจากนั้นจะยื่นขอการอนุมัติใช้ยาจากทางการประเทศต่างๆ ทั่วโลก
...
ในขณะที่ อเมช อดาลจา นักวิชาการอาวุโสที่ศูนย์ความปลอดภัยทางสุขภาพของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ในสหรัฐฯ กล่าวว่า ยาเม็ดต้านไวรัสที่สามารถลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในระดับนี้ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ บริษัทเมอร์คได้ออกมาแถลงถึงความคืบหน้าในการพัฒนาคิดค้น ยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ ที่อยู่ระหว่างการทดสอบเฟส 3 ว่าสามารถลดความเสี่ยงในการเข้าโรงพยาบาลได้ถึงครึ่ง
บีบีซีรายงานว่า ยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งตอนแรกถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรักษาโรคไข้หวัดใหญ่นั้น ได้ถูกออกแบบพัฒนาให้เป็นยาในการทำให้รหัสพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 เกิดความบกพร่อง เพื่อป้องกันไม่เชื้อแพร่กระจายในร่างกาย
ผลจากการศึกษาที่ยังไม่ได้ทำ 'เพียร์ รีวิว' หรือยังไม่ได้รับการตรวจสอบอีกครั้งจากคณะผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าจากผลการศึกษาวิจัยการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 775 คนพบว่า ผู้ได้รับประทานยาโมลนูพิราเวียร์ 7.3% มีอาการป่วยรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาล เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่กินยาหลอก ที่ต้องเข้าโรงพยาบาล 14.1%
อีกทั้งในผู้ป่วยที่กินยาโมลนูพิราเวียร์ ปรากฏว่าไม่มีใครเสียชีวิต เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่กินยาหลอก ที่ต่อมา ได้เสียชีวิตจากโควิด 8 ราย