หลังจากต้องงดการเดินทางท่องเที่ยวต่างแดนกันยาวนานเพราะวิกฤติโควิด ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกต่างอยากมาเยี่ยมเยือน ได้ปรับตัวเรียนรู้การอยู่ร่วมกับไวรัสและตัดสินใจเดินหน้าเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางต่างชาติ รักษาสมดุลระหว่างการป้องกันการระบาดของโควิด-19 กับเหตุผลทางเศรษฐกิจ ในขณะที่เมืองไทยได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้วด้วยโครงการนำร่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

เริ่มต้นด้วย “เวียดนาม” ที่วางแผนต้อนรับผู้มาเยือนจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ยุโรป สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง ซึ่งมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยจะเริ่มต้นที่ “เกาะฟู้ก๊วก” เกาะใหญ่ที่สุดของเวียดนาม อยู่ทางตอนใต้ของประเทศใกล้ชายแดนกัมพูชา แม้จะเป็นที่รู้จักน้อยกว่าเกาะอื่นๆในภูมิภาค แต่ก็ได้ชื่อว่ามีชายหาดสวยงาม ตลาดกลางคืนที่คึกคัก รวมถึงอุทยานแห่งชาติที่เหมาะสำหรับเดินป่าท่องเที่ยว มีกำหนดเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้วในเดือน ต.ค.นี้ โดยในช่วง 3 เดือนแรกตั้งเป้านักท่องเที่ยว 2,000-3,000 คนต่อเดือน ให้เดินทางมาด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำและจำกัดพื้นที่ในการท่องเที่ยว ส่วนในช่วงที่ 2 ปรับเพิ่มนักท่องเที่ยวเป็น 5,000 - 10,000 คน โดยให้เดินทางสู่เกาะได้ด้วยเที่ยวบินพาณิชย์และสัมผัสกับธรรมชาติบนเกาะได้มากขึ้น

ขณะที่สิงคโปร์ได้ต้อนรับเที่ยวบินจากยุโรปในเดือนนี้เป็นครั้งแรกในรอบปีครึ่ง นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบจากเยอรมนีและบรูไนสามารถเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัวหากผ่านการทดสอบหาเชื้อโควิด-19 แล้ว 4 ครั้ง ขณะที่ผู้เดินทางจากฮ่องกง มาเก๊า จีน และไต้หวันก็เข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่คำนึงถึงสถานะการฉีดวัคซีน หากสมัครขอใบอนุญาตการเดินทางทางอากาศก่อนล่วงหน้า ส่วนอินโดนีเซียที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในภูมิภาค อาจพิจารณาเฉพาะผู้เดินทางมาจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ มายังเกาะบาหลีในเดือน ต.ค.นี้เช่นกัน

...

ด้านมาเลเซียที่ต้องขาดรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลไม่ต่างจากบ้านเราได้เริ่มเปิดหมู่เกาะลังกาวีให้นักท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับวัคซีนก่อน ตามแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว และจะขยายไปยังเกาะเตียวมัน ยะโฮร์ มะละกา และรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว ส่วนการเปิดรับนักเดินทางต่างชาติจะอยู่ในแผนขั้น 4 ต่อไป.

อมรดา พงศ์อุทัย