ศาลอังกฤษตัดสินจำคุกตลอดชีวิตแบบไม่ให้ทัณฑ์บน ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อย แก่นายตำรวจผู้ก่อเหตุลักพาตัวและข่มขืนฆาตกรรม ซาราห์ เอฟเวอราร์ด จนสร้างกระแสความไม่พอใจไปทั้งประเทศ
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ย. 2564 นาย เวย์น คูเซนส์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจเทศบาลกรุงนิวยอร์ก ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่ให้ทัณฑ์บน จากความผิดข้อหา ลักพาตัว, ข่มขืนกระทำชำเรา และฆาตกรรม น.ส.ซาราห์ เอฟเวอราร์ด วัย 33 ปี ระหว่างที่เธอกำลังเดินกลับบ้านในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา
อัยการระบุว่า ในวันเกิดเหตุ น.ส.เอฟเวอราร์ด กำลังเดินกลับบ้าน ก่อนที่นายคูเซนจะเข้ามาแสดงบัตรตำรวจ จับเธอใส่กุญแจมือ แล้วพาเธอไปที่รถโดยอ้างว่าเธอทำผิดกฎการป้องกันโควิด-19 แต่นายคูเซนส์กลับกระทำการข่มขืนเหยื่อและรัดคอเธอจนเสียชีวิตในช่วงเย็นวันนั้น
อนึ่ง การตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บนแบบกรณีของนายคูเซนส์ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนั้นในสหราชอาณาจักร โดยเป็นคำตัดสินที่ถูกกำหนดไว้ด้วยว่า เป็นอาชญากรรมร้ายแรงเป็นพิเศษ หมายความว่า จำเลยจะไม่มีสิทธิ์รับการพิจารณาทำทัณฑ์บน หรือปล่อยตัวแบบมีเงื่อนไขอีกต่อไป ซึ่งในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักรมีเพียง 60 คนเท่านั้นที่เคยรับโทษเช่นนี้
...
ผู้พิพากษา เอเดรียน ฟูลฟอร์ด อ่านคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดีซึ่งมีผู้คนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และเสริมว่า นายคูเซนส์ วัย 48 ปี ใช้เวลาตลอดช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค. ในการตามล่าหาผู้หญิงตัวคนเดียวเพื่อลักพาตัวและข่มขืน “คุณสร้างความเสียหายอย่างไม่อาจย้อนคืนได้ต่อชีวิตของครอบครัวและเพื่อนของ ซาราห์ เอฟเวอราร์ด คุณยังกัดกร่อนความเชื่อมั่นที่สังคมมอบให้แก่กองกำลังตำรวจ และคุณทรยศต่อครอบครัวของคุณเอง”
ขณะที่นายคูเซนส์ ยืนก้มศีรษะและหลับตาอยู่หลังคอกจำเลยแทบตลอดช่วงการพิจารณาคดี 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งผู้พิพากษาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมในศาลของเขาว่า เขาไม่แสดงให้เห็นหลักฐานของการสำนึกผิดที่แท้จริงเลย
ทั้งนี้ คดีของ น.ส.เอฟเวอราร์ด ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นวงกว้างบนโลกออนไลน์ โดยมีผู้หญิงหลายคนออกมาแบ่งปันประสบการณ์การถูกทำร้ายทางเพศที่พวกเธอเคยเผชิญ ซึ่งเป็นการเปิดเผยกรณีความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิงมากมายที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ขณะที่รัฐบาลออกมาให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าว แต่กลุ่มเคลื่อนไหวและฝ่ายค้านระบุว่า มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลเสนอมา ยังไม่เพียงพอ