เมื่อการแพร่ระบาดของ โควิด-19 คือความท้าทายครั้งใหญ่ของมนุษย์ที่ต้องหาทางรอดทั้งชีวิตและธุรกิจที่ต่างได้รับผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะการท่องเที่ยว การจัดอีเวนต์ และธุรกิจบันเทิงที่เคยทำเงินมหาศาล

ปลายสัปดาห์ก่อนรัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญจากโครงการ “Events Research Programme” (ERP) โครงการนำร่องเพื่อศึกษาวิจัยความเสี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19 จากการเข้าร่วมกิจกรรมของคนจำนวนมากในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าการแสดง โรงละคร คอนเสิร์ต ตลอดจนการแข่งขันกีฬา โดยไม่เว้นระยะห่าง และหาแนวทางให้สามารถดำเนินกิจกรรมเหล่านั้นได้อย่างปลอดภัยซึ่งเริ่มศึกษาตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.-ต้นเดือน ก.ค.

จากอีเวนต์ใหญ่ 37 งานที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 4 เดือนที่ทำการทดลอง พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่ “สอดคล้องกับหรือต่ำกว่า” อัตราการติดเชื้อในชุมชนในช่วงเดียวกัน ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศระหว่างอิตาลี และอังกฤษ เมื่อ 11 ก.ค. รอบรองชนะเลิศระหว่างอังกฤษ และเดนมาร์ก เมื่อ 7 ก.ค. รวมทั้งเทศกาลดนตรีละติจูด เฟสติวัล และแทรมไลน์ส เฟสติวัล นั้นสัมพันธ์กับการติดเชื้อมากกว่า 1,000 เคส ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าอีเวนต์เหล่านี้จัดขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดในระดับสูง และยังโทษแฟนบอลที่ไม่มีตั๋วจำนวนมากที่ไปรวมตัวกันในพื้นที่รอบๆสนามกีฬาเวมบลีย์ ซึ่งอาจมีส่วนทำให้การติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

ด้านการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน “บริติช กรังด์ปรีซ์” ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดในช่วง 18 เดือน มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 350,000 คน ตลอด 3 วัน พบผู้ติดเชื้อ 585 ราย ในจำนวนนี้ 343 รายมีแนวโน้มติดเชื้อมาก่อนแล้ว ขณะที่อีก 242 รายมีแนวโน้มว่าติดเชื้อในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนที่การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมที่ 3 ของปีอย่าง “วิมเบิลดัน” ในเดือนเดียวกัน ซึ่งมีผู้ชมประมาณ 300,000 คน ใน 2 สัปดาห์ ก็พบผู้ป่วย 881 ราย ซึ่ง 299 รายมีแนวโน้มว่าติดเชื้อมาก่อน และมีผู้ติดเชื้อในช่วงการแข่งขัน 582 ราย

...

รัฐบาลอังกฤษจึงสรุปว่า “สามารถจัดการแข่งขันกีฬาและการแสดงต่างๆได้อย่างปลอดภัย แต่ยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง” โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมากเป็นเวลานาน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน เพื่อให้ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติมากที่สุด

ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องเป็นความร่วมมือร่วมใจอย่างพร้อมเพรียงของประชาชน ภาคเอกชน และรัฐบาล ที่จะช่วยกันฝ่าฝันวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้อย่างยั่งยืน.

อมรดา พงศ์อุทัย