ออสเตรเลียยังเครียด พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ สูงสุดในปีนี้ ถึงแม้ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ประชาชน 15 ล้านคนมากว่าเดือน ขณะที่นครซิดนีย์ กำลังเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิด-19
เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชียรายงาน ออสเตรเลียเผชิญสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ระบาดรุนแรงมากขึ้น ถึงแม้ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ ควบคุมประชาชนหลายล้านคนในการป้องกันและแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่สามารถแพร่กระจายติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ โดยทางการออสเตรเลียรายงานในวันนี้ (7 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 363 ราย ทำสถิติสูงสุดในปีนี้ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ศพ ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 36,051 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 939 ศพ
ทางการออสเตรเลีย ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และรัฐควีนส์แลนด์ รวมมีประชากรประมาณ 15 ล้านคน หรือคิดเป็น 60%-ของจำนวนประชากรในประเทศ
...
ทว่ายังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ เพิ่มอีก 319 ราย ซึ่งถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในปีนี้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ นับตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดเมื่อต้นปี 2363 โดยนครซิดนีย์ และเมืองใกล้เคียง กลายเป็นศูนย์กลางระบาดของเชื้อโควิด-19 จนทำให้ทางการต้องสั่งล็อกดาวน์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลเป็นระยะทางนับ 200 กิโลเมตร อยู่แต่ในอาคารที่พักอาศัยมานานนับ 6 สัปดาห์แล้ว
มีรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 345 ราย ในจำนวนนี้ อาการป่วยรุนแรงอยู่ในห้องไอซียู 56 ราย และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 23 ราย
ส่วนที่รัฐวิกตอเรีย รัฐเพื่อนบ้านติดกับรัฐนิวเซาท์เวลส์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 29 ราย จนถือเป็นสถิติสูงสุดของปีนี้ และที่รัฐควีนส์แลนด์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 13 ราย