สหรัฐอเมริกาเริ่มเห็นความคืบหน้าในการเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชน โดยล่าสุดทำเนียบขาวระบุครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาเผยความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่พลเมืองอเมริกัน ซึ่งในระยะนี้มีประชาชนแห่เข้ารับวัคซีนจำนวนมากขึ้น หลังพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา โดยจนถึงวันศุกร์ (9 ส.ค.) มีประชาชนชาวอเมริกันทุกช่วงวัยถึง 50 เปอร์เซ็นต์ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสแล้วหรือคิดเป็นมากกว่า 165 ล้านคน หลังจากที่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีครึ่งหนึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนครบโดส

นายไซรัส ชาห์พาร์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ทำเนียบขาวระบุว่า จำนวนประชากรที่เข้ารับวัคซีนเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นถึง 11 เปอร์เซ็นต์ จากสัปดาห์ก่อน และเพิ่มขึ้นถึง 44 เปอร์เซ็นต์จากสองสัปดาห์ที่แล้ว และในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนเฉลี่ยของคนที่เข้ารับวัคซีนในแต่ละวันสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี และหวังว่าชาวอเมริกันจะเข้ารับวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก ท่ามกลางการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา

...

ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกานับเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโควิด-19 โดยมียอดผู้เสียชีวิตสะสมมากถึง 615,000 ศพ ซึ่งนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้พยายามผลักดันให้ชาวอเมริกันไปรับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เขาเริ่มเข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม โดยมีความหวังว่าหากประชากรได้รับวัคซีนตามเป้าหมาย จะทำให้ชาวอเมริกันสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในช่วงหน้าร้อนนี้ แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผน หลังพบเชื้อกลายพันธุ์เดลตาระบาดทำให้ยอดติดเชื้อพุ่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เฉลี่ยมีผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สูงถึง 90,000 ราย จนหลายรัฐต้องกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มกันอีกครั้ง.