ตูนิเซียเผชิญวิกฤติ ประธานาธิบดีได้กองทัพสนับสนุน สั่งปลดฟ้าผ่านายกฯ พักการประชุมรัฐสภา หลังเกิดม็อบประท้วงทั่วประเทศโจมตีจัดการสถานการณ์โควิด-19 ผิดพลาด
เมื่อ 25 ก.ค. 64 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์ ตูนิเซีย ประเทศทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา เผชิญวิกฤตการณ์ทางประชาธิปไตยครั้งเลวร้ายสุดในรอบหลายสิบปี เมื่อประธานาธิบดีกาอิส เซอิด แห่งตูนิเซีย ได้สั่งปลดนายกรัฐมนตรีฮีเชม เมชิชี พ้นจากตำแหน่ง และพักการประชุมรัฐสภาอย่างไม่คาดคิด หลังจากมีประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. โจมตีรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเมชิชี จัดการสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ผิดพลาด จนทำให้พบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
การเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีเซอิด ที่สั่งปลด นายเมชิชี พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างกะทันหัน และเขาเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทน จนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ จนทำให้ถูกพรรคการเมืองใหญ่ในประเทศหลายพรรคออกมาประณาม พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านการสั่งปลดนายกรัฐมนตรีเมชิชี พร้อมกับยัวพักการประชุมของรัฐสภาเป็นเวลา 30 วัน
...
รอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า การที่ประธานาธิบดีเซอิด ซึ่งคว้าชัยการเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตูนิเซียตั้งแต่ปี 2562 สั่งปลดนายกรัฐมนตรีเมชิชี เกิดขึ้นหลังจากเกิดความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีเซอิด ซึ่งเป็นนักการเมืองอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด กับนายกรัฐมนตรีเมชิชี มานานหลายเดือนแล้ว
ภายหลังประธานาธิบดีเซอิดได้สั่งปลดนายกรัฐมนตรีเมชิชีแล้ว ได้มีประชาชนที่สนับสนุนและไม่เห็นด้วย ออกมาชุมนุมบนท้องถนนในกรุงตูนิส เมืองหลวง จนทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะ มีการขว้างปาก้อนหินใส่กันเมื่อเช้าวันนี้ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ทว่ามีประชาชนในหลายเมือง รวมทั้งในกรุงตูนิส ออกมาไชโยโห่ร้องด้วยความยินดีต่อความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของประธานาธิบดีเซอิด
จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรีเมชิชี ซึ่งไม่สังกัดพรรคการเมืองเช่นกัน แต่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเอนนาห์ดา ซึ่งเป็นการเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศ เผยว่า ขณะนี้ นายเมชิชี ยังคงอยู่ภายในบ้านพัก และไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมควบคุมตัวแต่อย่างใด
ด้านกองทัพตูนิเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อความตึงเครียดทางการเมืองที่เกิดขึ้น ในขณะที่กองทัพได้มีการส่งกำลังทหารไปประจำการที่ทำเนียบรัฐบาล และห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่และพนักงานเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลในวันจันทร์ที่ 26 ก.ค. พร้อมกับส่งทหารเข้าประจำการตรึงกำลังล้อมรอบรัฐสภาด้วย
สำหรับการที่ประธานาธิบดีเซอิดสั่งปลดนายกรัฐมนตรีเมชิชีในครั้งนี้ ถือเป็นการทำให้เกิดความเสี่ยงมากที่สุดต่อเสถียรภาพของประเทศตูนิเซีย นับตั้งแต่เกิดการปฏิวัติโค่นล้มผู้นำประเทศตูนิเซียในปี 2544 จนจุดกระแส 'อาหรับ สปริง' หลายประเทศในโลกอาหรับออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้นำทรราชที่ครองอำนาจมายาวนาน