สื่อในต่างประเทศรายงานเรื่องไทยกำลังพิจารณาลดการส่งออกวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศ หวั่นกระทบแผนฉีดวัคซีนในประเทศเพื่อนบ้าน
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย ของสิงคโปร์ รายงานว่า ไทยกำลังพิจารณาลดการส่งออกวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา ที่ผลิตภายในประเทศ เพื่อรับมือกับวิกฤติการระบาดในดินแดน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อแผนการฉีดวัคซีนของประเทศเพื่อนบ้าน และกระตุ้นความกังวลว่าจะเกิดการ ปกป้องตลาด (protectionism)
รายงานของแชนเนลนิวส์ฯ อ้างคำพูดของ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ที่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธที่ 14 ก.ค. 2564 ว่า ทางสถาบันฯ มีการพิจารณาการออกประกาศสาธารณสุข เรื่องกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนออกนอกราชอาณาจักร แต่ย้ำว่า ยังไม่มีการประกาศเป็นคำสั่ง และหลายหน่วยงานยังจำเป็นต้องทบทวนเกี่ยวกับประโยชน์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ แชนเนลนิวส์ฯ ระบุว่า ความพยายามใดๆ ที่จะจำกัดการส่งออก อาจทำให้การกระจายวัคซีนในมาเลเซีย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กำลังพุ่งขึ้นสูงเช่นกัน ต้องล่าช้าออกไปอีก และอาจทำให้เกิดภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากอินเดียก็ระงับการส่งออกวัคซีนของแอสตราเซเนกาไปแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น หากไทยตัดสินใจจำกัดการส่งออกวัคซีนจริง จะถือเป็นความถดถอยครั้งใหม่ของบริษัท แอสตราเซเนกา ซึ่งกำลังพยายามเร่งผลิตและส่งมอบวัคซีนในระดับภูมิภาคให้ได้ตามสัญญาที่ทำไว้
อนึ่ง บริษัท แอสตราเซเนกาสาขาประเทศไทย เปิดเผยเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนว่า หุ้นส่วนของพวกเขาอย่างบริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ (Siam Bioscience) ตั้งเป้าจะผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ได้ 180 ล้านโดสในปีนี้ โดยราว 1 ใน 3 จะเป็นของไทย ส่วนที่เหลือจะส่งมอบไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
...
นพ.นคร กล่าวด้วยว่า ตอนนี้พวกเขากำลังเจรจากับบริษัทผู้ผลิต เพื่อให้พวกเขาส่งมอบวัคซีนให้กับไทยในปริมาณที่เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดในประเทศ.