กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและกฎหมาย จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและสำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอเดินทางไปเฮติเพื่อกำหนดท่าทีความช่วยเหลือหลังเหตุลอบสังหารประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส วัย 53 ปี ภายในบ้านพักที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ ส่วนนางมาร์ติน โมอิส สตรีหมายเลข 1 ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งไปรักษาที่สหรัฐฯ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า คนร้ายบุกเข้ามาช่วงกลางดึก เหตุเกิดขึ้นเร็วมากจนนายโมอิสไม่ได้พูดอะไรสักคำ

การส่งทีมงานของสหรัฐฯเกิดขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีรักษาการ โคลด โจเซฟ ขอให้สหรัฐฯ กับสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ส่งกองกำลังเข้ามาเพื่อคุ้มครองดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ซึ่งทางยูเอ็นยังต้องขอคำสั่งอนุญาตจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เสียก่อน ขณะที่นายลีออง ชาร์ลส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเฮติ ประกาศว่าเจ้าหน้าที่ได้จับตัวผู้ต้องสงสัยชาวเฮติที่เชื่อว่าเป็นตัวการสำคัญ คือนายคริสเตียน เอ็มมานูเอล ซานอน ซึ่งถูกกล่าวหาว่านั่งเครื่องบินส่วนตัวจากที่อาศัยในรัฐฟลอริดา ของสหรัฐฯ เข้ามาในเฮติและเป็นผู้ประสานงาน รับคำสั่งสังหารประธานาธิบดีโมยิส ที่มาจากผู้บงการอยู่เบื้องหลังอีกอย่างน้อย 2 คน.