จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอินเดีย ทะลุ 4 แสนศพแล้ว แต่ยอดติดเชื้อรายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การฉีดวัคซีนชะลอตัวลง

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า อินเดียพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 853 ศพ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จนถึงวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. 2564 ทำให้ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 400,312 ศพแล้ว มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และบราซิล

ขณะที่ตามการนับสถิติของรอยเตอร์ส อินเดีย มีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสมรณะชนิดนี้ถึง 100,000 ศพ ภายในช่วง 39 วันที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาต้องเผชิญการระบาดระลอกที่ 2 อันหนักหน่วง ซึ่งเล่นงานแถบเมืองใหญ่ไปจนถึงชนบท ที่คนนับล้านมีความเสี่ยงจากโควิด เนื่องจากยังไม่ได้รับวัคซีน

ด้านนายริโจ เอ็ม. จอห์น ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยสังคมศาสตร์ ‘ราชคีรี’ (Rajagiri) ในเมืองโคชิ ทางใต้ของอินเดีย เชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจมีมากถึง 1 ล้านคน “การนับจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกรัฐ ส่วนใหญ่เป็นผลจากความล่าช้าของระบบ ซึ่งหมายความว่า เราจะไม่มีวันได้รู้ว่าเราเสียผู้คนไปเท่าไรในการระบาดระลอก 2 นี้”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดในอินเดียตอนนี้นับว่าผ่อนคลายลงอย่างมาก จากเดิมที่เคยพบผู้ติดเชื้อถึงวันละ 400,000 รายในเดือนพฤษภาคม แต่ตอนนี้ลดเหลือราว 46,000 รายต่อวัน ขณะที่รัฐบาลหันไปมุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน และค่อยๆ เปิดประเทศอย่างช้าๆ ท่ามกลางคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญเรื่องการระบาดระลอกที่ 3 และการปรากฏของไวรัสสายพันธ์ุใหม่อย่าง เดลตาพลัส

...

เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เริ่มแคมเปญฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ฟรีทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชน 950 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564 แต่ข้อมูลสถิติชี้ว่า จังหวะการฉีดวัคซีนเริ่มช้าลง จากสัปดาห์ก่อนที่ฉีดได้วันละ 6.6 ล้านโดส เหลือเพียง 3.5 ล้านโดสในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจำนวนวัคซีนยังขาดแคลน.