กาชาดสากลเตือน สถานการณ์โควิด-19 ในอินโดนีเซียเข้าใกล้หายนะ ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20,000 คนรายวัน โรงพยาบาลใกล้เต็ม

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) ออกมาเตือนในวันอังคารที่ 29 มิ.ย. 2564 ว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอินโดนีเซียกำลังเข้าใกล้ขั้น ‘หายนะ’ แล้ว หลังไวรัสสายพันธ์ุเดลตาเริ่มกลายเป็นสายพันธ์ุหลักในการระบาดมากขึ้น ขณะที่โรงพยาบาลเริ่มรับมือไม่ไหว

อินโดนีเซียรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่มากกว่า 20,000 รายติดต่อกันหลายวันแล้ว โดยการระบาดระลอกใหม่รุนแรงขึ้นจากการปรากฏของไวรัสสายพันธ์ุเดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียและมีอัตราการแพร่กระจายสูง ไวรัสยังแพร่กระจายรวดเร็วขึ้นเพราะประชาชนเดินทางในช่วงหลังเดือนรอมฎอนด้วย

นายแยน เกลฟานด์ ผู้อำนวยการ IFRC ประจำอินโดนีเซีย กล่าวว่า “ทุกวัน เราเห็นโควิดเดลตาผลักดันอินโดนีเซียเข้าใกล้ขอบเหวแห่งหายนะมากขึ้นเรื่อยๆ”

...

ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลหลายแห่งในเขตที่ถูกจัดเป็น ‘พื้นที่สีแดง’ มีผู้ป่วยใกล้ล้นโรงพยาบาล รวมถึงในกรุงจาการ์ตา ที่เตียงสำหรับแยกผู้ป่วยเต็มไปแล้ว 93% นอกจากนี้ถังออกซิเจนในเมืองหลวงแห่งนี้ก็เริ่มขาดแคลนจนราคาพุ่งเป็น 2 เท่า แต่หน่วยงานสาธารณสุขยืนยันว่า นี่เป็นการขาดแคลนชั่วคราวเพราะปัญหาด้านการขนส่ง

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้ออกมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขกำลังเป็นแกนนำผลักดันมาตรการใหม่ “โรงพยาบาลเต็มเพราะผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเดินทางกับการผ่อนคลายข้อบังคับ และสถานการณ์เลวร้ายลงเพราะโควิดเดลตา” ดร.สิติ นาเดีย ทาร์มิซี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขกล่าว