ระบาดหนักยิ่งกว่าไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ ก็คงไม่พ้นกระแส ความเกลียดชังชาวเอเชียในประเทศตะวันตก ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป แม้ว่าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะพยายามเรียกร้องให้คนอเมริกันปรับเปลี่ยนทัศนคติ และเร่งผ่านกฎหมายต้านอาชญากรรมจากโควิด-19 ในการเพิ่มอำนาจให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเพื่อตรวจสอบและจัดการกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติและศาสนา แต่ดูเหมือนสถานการณ์ความรุนแรงจากอาชญากรรมจากความเกลียดชังนี้จะไม่ลดลง และทวีความรุนแรงขึ้น

ไบเดนเตรียมกองทุนวงเงิน 49.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือ 1,551 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครัวเรือน เหตุร้ายในชุมชน และอาชญากรรมทางเพศ ในระดับชุมชนและระดับท้องถิ่นอย่างเฉพาะเจาะจง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯกำลังทำคือการแก้ไขที่ปลายเหตุ

คำจำกัดความของสำนักสำรวจสำมะโนประชากรแห่งสหรัฐฯ พ.ศ. 2543 และ พ.ศ. 2553 เกี่ยวกับเชื้อสายเอเชียคือ “คนที่มีชาติกำเนิดดั้งเดิมในตะวันออกไกล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออนุทวีปอินเดีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย” แม้ว่า ‘เอเชีย’ ในความหมายของสำนักสำมะโนฯ จะมีความหลากหลาย แต่ภาพการทำร้าย ‘เอเชีย’ ที่เราเห็นส่วนใหญ่คือ เอเชียเชื้อสายจีน หรือมีหน้าตาค่อนไปทางจีน

ใครจะนึกเล่าครับ ว่าสหรัฐฯตอนนี้จะกลายเป็นประเทศบ้านป่าเมืองเถื่อนที่ใครจะนึกทำร้ายใครที่ไหนก็ได้ ทั้งริมถนน ใจกลางเมือง ในรถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่หน้าบ้านตัวเอง ช่วงปีที่ผ่านมาภาพความรุนแรงส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกันผิวขาว ที่ตะโกนไล่คนเชื้อสายเอเชียให้กลับบ้านไป หรือแม้แต่ทำร้ายร่างกาย มาวันนี้ไม่ใช่ครับ ผู้อ่านท่านลองดูกรณีที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ส่วนใหญ่คือชาวเอเชียที่ถูกทำร้ายโดยคนแอฟริกัน–อเมริกัน

...

คนเอเชียถูกทำร้ายร่างกายมากมายหลายกรณี ทั้งถูกแอบกระทำ และถูกกระทำต่อหน้าคนจำนวนมาก แต่อะไรเกิดขึ้นกับสังคมอเมริกัน เพราะดูจากคลิปจะเห็นว่าไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือ มีแต่ยืนดู บ้างก็เดินเลี่ยง หรืออย่างดีก็แค่อัดคลิปหน้าตาคนร้ายเอาไว้ช่วยเหยื่อเท่านั้น

แอฟริกัน-อเมริกันเป็นเชื้อสายที่ถูกกดขี่ข่มเหงตลอดมาในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ มีการต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิและเสรีภาพแก่เผ่าพันธุ์ของตนมายาวนาน ผมไม่แน่ใจว่า การใช้ความรุนแรงของแอฟริกัน-อเมริกันที่ทำต่อเอเชียน-อเมริกันนั้นเกิดจากความต้องการปลดปล่อยสิ่งที่ตัวเองเคยถูกกระทำหรือไม่ เพราะที่เห็นในคลิปส่วนใหญ่จะเป็นการทำร้ายเหยื่อที่อ่อนแอกว่าโดยเฉพาะคนชรา และทำร้ายโดยเหยื่อไม่ทันตั้งตัว

องค์กรยุติความเกลียดชังต่อคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก หรือ STOP AAPI Hate รายงานว่า ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปีที่ผ่านมา คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯกลายเป็นเหยื่อจากการคุกคามหรือถูกทำร้ายจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติ สีผิว มากถึง 3,795 ครั้ง

ไม่เพียงชุมชนชาวเอเชียในสหรัฐฯเท่านั้นที่ออกมาต่อต้านความเกลียดชังชาวเอเชีย แต่ในแคนาดากับนิวซีแลนด์ก็มีการออกมาเรียกร้องให้หยุดความเกลียดชังชาวเอเชีย หรือ ‘Stop Asian Hate’ เช่นกัน แสดงว่า ขณะนี้คนเอเชียไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหนในประเทศตะวันตก ล้วนมีความเสี่ยงต่อการเป็นเหยื่ออาชญากรรมหรือถูกเลือกปฏิบัติจากความเกลียดชังในเชื้อชาติสีผิวทั้งสิ้น

อย่างที่ผมเรียนไปในตอนต้น กระแสการเกลียดชังจนนำไปสู่การทำร้ายชาวเอเชียระบาดไปทั่วสหรัฐฯ คนร้ายมักอ้างว่าการแพร่ ระบาดของโควิด-19 มาจากจีน และพาลไล่ผู้คนเอเชียกลับประเทศดั้งเดิมของตัวเอง ทั้งๆที่จำนวนไม่น้อยมาลงหลักปักฐานในสหรัฐฯมานานหลายชั่วอายุคน จากที่เคยอยู่กันอย่างสงบ ตอนนี้ก็ต้องระแวงหน้า ระวังหลัง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกจู่โจมเมื่อใด

ปัญหาภายนอกก็มาก ปัญหาภายในก็เยอะ ถ้าไบเดนไม่จัดการอะไรให้เด็ดขาด สังคมอเมริกันที่เคยเชิดชูความหลากหลายของชาติพันธุ์อาจจะพังในเร็ววันนี้.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com