อินเดียประกาศการค้นพบโควิด-19 "กลายพันธุ์คู่" (Double Mutation) ที่กำลังแพร่ระบาดรวดเร็วในรัฐมหาราษฏระ ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าไวรัสกลายพันธุ์แบบใหม่นี้คืออะไร รุนแรงและดื้อวัคซีนหรือไม่

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. เว็บไซต์ข่าว BBC รายงานว่า สมาคมศึกษาจีโนมเชื้อโรคโควิด-19 แห่งอินเดีย (Indian SARS-CoV-2 Consortium on Genomics-INSACOG) ของกระทรวงสาธารณสุข พบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แบบ "กลายพันธุ์คู่" (Double Mutation) ซึ่งเป็นเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่ที่เกิดขึ้นในอินเดีย  

การค้นพบครั้งนี้มีขึ้นหลังการตรวจหาลำดับทางพันธุกรรมของกลุ่มตัวอย่างผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 10,787 ราย ใน 18 รัฐทั่วอินเดีย และพบว่าเชื้อกลายพันธุ์ตัวนี้ในกลุ่มตัวอย่างราว 15-20% ในรัฐมหาราษฏระ

Double Mutation คืออะไร และน่ากังวลหรือไม่

นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อปลายปี 2563 เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้มีการกลายพันธุ์ ปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอด แต่ส่วนใหญ่แล้วการกลายพันธุ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยไม่ได้เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญหรือวิตกกังวลมากนัก

...

แต่มีการกลายพันธุ์ที่สร้างความวิตกกังวล (Variant of Concern-VOC) อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในอังกฤษ บราซิล และแอฟริกาใต้ ขณะที่ล่าสุดคือการกลายพันธุ์แบบคู่ ที่พบในอินเดีย 

ดร.ราเกศ มิชรา ผู้อำนวยการศูนย์ชีววิทยาและโมเลกุลของอินเดีย เปิดเผยว่า โควิดกลายพันธุ์คู่ที่พบในอินเดียคือ การที่ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่แบบที่ไม่น่าวิตกกังวล 2 ตัวมาเจอกัน แล้วรวมเป็นตัวใหม่ 


โดยสองตัวที่มารวมกัน ได้แก่ สายพันธุ์ "L452R" ที่มาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ กับสายพันธุ์ "E484Q" ซึ่งเป็นตัวกลายพันธุ์ในอินเดีย

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า Double Mutation สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางโปรตีนตรงส่วนหนาม และผ่านตัวรับบนผิวเซลล์ไปพร้อมๆ กัน โดยมันถูกพบครั้งแรกที่เมืองนาคปุระ รัฐมหาราษฏระ เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และตอนนี้พบว่ามีอยู่ประมาณ 20% ของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในรัฐนี้ 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะสรุปว่าโควิดกลายพันธุ์คู่ ติดง่ายขึ้น ทำให้เสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่ และยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสาเหตุให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในรัฐมหาราษฏระ หรือรัฐอื่นๆ หรือไม่

ไวรัสสายพันธุ์ที่น่ากังวลอีก 770 ชนิด

นอกจากโควิดกลายพันธุ์คู่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังแถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค.64 พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่กังวลอีก 771 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สหราชอาณาจักร 736 ราย โควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ 34 ราย และโควิด-19 กลายพันธุ์บราซิล 1 ราย 

สถานการณ์การแพร่ระบาดในอินเดีย

...

ขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดียกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หลังจากที่มีการฉีดวัคซีน 2 ชนิด ได้แก่ "Covaxin" ผลิตโดยบริษัทภารัต ไบโอเทค ของอินเดีย กับ "Covishield" ของแอสตราเซเนกา ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด นอกจากนี้ยังมีมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศถึง 5 รอบ และล่าสุดยังคงล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว เฉพาะพื้นที่เสี่ยง แต่จนถึงตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าวิตก 

โดยในวันพุธที่ 24 มี.ค. 2564 กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกถึง 47,000 รายในวันเดียว ทุบสถิติสูงสุดของปีนี้ และมีผู้เสียชีวิตอีก 275 ศพ ล่าสุดอินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสม 11.7 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 160,726 ศพ

ล่าสุด รัฐบาลอินเดียออกคำสั่งระงับการส่งออกวัคซีนของแอสตราเซเนกาทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในประเทศ ซึ่งจะทำให้ความต้องการวัคซีนในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าเพิ่มตามไปด้วย จึงต้องเก็บวัคซีนส่วนนี้ไว้ใช้ในประเทศก่อน โดยคาดว่าจะบังคับใช้มาตรการถึงสิ้นเดือนเมษายน.

ที่มา BBC CNBC