สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาะติดสถานการณ์การเมืองในเมียนมา ที่ยังคงตึงเครียดนับตั้งแต่การรัฐประหาร 1 ก.พ. หลังประชาชนจำนวนมากยังคงออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในเมืองต่างๆอย่างต่อเนื่องจนเป็นเหตุให้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรง มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 70 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ไม่รวมถึงผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวจากการบุกกวาดล้างจับกุมในที่พักอาศัยยามวิกาล
ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายขิ่น หม่อง ซอ ทนายส่วนตัวของนางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมา ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้กองทัพเมียนมาที่ล่าสุดได้ตั้งข้อหาเพิ่มเติมแก่นางซูจีว่า รับสินบนเป็นทองคำแท่งกว่า 10 กิโลกรัม และเงินรวมมูลค่ากว่า 600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 17.4 ล้านบาท ระบุว่าเป็นการกล่าวหาที่หลักลอย ไม่เคยเห็นการสาดโคลนกันอย่างผิดกฎหมายเช่นนี้มาก่อน พร้อมร้องเรียนว่ายังไม่สามารถเข้าพบลูกความของตัวเองได้ ถือเป็นการไม่ให้โอกาสแก่นางซูจีในการสู้คดีกันอย่างยุติธรรมใช่หรือไม่
สำหรับกำหนดการขึ้นศาลครั้งต่อไปของนางซูจีคือวันที่ 15 มี.ค. นี้ ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกกังวลกับ 4 ข้อหาที่ถูกกล่าวหา ไม่ว่าการครอบครองสินค้านำเข้าผิดกฎหมาย ละเมิดกฎหมายภัยพิบัติ ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก หรือข้อหาใหม่เรื่องการรับสินบน แต่สิ่งที่กังวลก็คือกองทัพเมียนมาจะตั้งข้อหาแก่นางซูจีไปเรื่อยๆจนสุมเป็นกองพะเนิน ทั้งเชื่อว่าจะเป็นการกล่าวหากันอย่างผิดๆ พร้อมยอมรับว่าสมัยช่วงที่นางซูจีบริหารรัฐบาล ตนเคยขัดแย้งกับนางซูจีหลายครั้ง โดยเฉพาะตอนที่ตนช่วยว่าความให้นักข่าวกรณีถูกตั้งข้อหาช่วงรายงานข่าวชาวโรฮีนจา แต่ยืนยันว่านางซูจีไม่เคยเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชัน การรับสินบนแน่นอน
...
สำนักข่าวเอพีรายงานด้วยว่า ศาลเมียนมาได้ยืดระยะเวลาการควบคุมตัวนักข่าวเอพี และนักข่าวสำนักอื่นๆอีก 6 คน ที่ถูกจับกุมระหว่างการทำข่าวภาคสนามเกาะติดสถานการณ์ประท้วง และถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.พร้อมรายงานว่านับตั้งแต่การก่อรัฐประหาร ฝ่ายความมั่นคงเมียนมาได้ทำการจับกุมสื่อมวลชน 38 คน ในจำนวนนี้ 19 คน ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว
ในวันเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ แสดงความกังวลต่อจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 70 คน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ประกาศให้ชาวอังกฤษเดินทางออกจากเมียนมา ยกเว้นจะมีเหตุจำเป็นให้ต้องอยู่ต่อเนื่องด้วยสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง ปัญหาความไม่สงบ และการใช้ความรุนแรงได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.