กัมพูชายังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน จนต้องผ่านกฎหมายใหม่เพื่อลงโทษผู้ละเมิดมาตรการควบคุม และเปลี่ยนโรงแรมหรูเป็นโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รัฐบาลกัมพูชา ดำเนินการเปลี่ยนโรงแรม ‘เกรท ดยุค พนมเปญ’ อดีตโรงแรมหรูซึ่งหยุดกิจการมาแล้วกว่า 2 ปี เป็นโรงพยาบาลชั่วคราวขนาด 500 ห้อง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการระบาดรอบที่ 3 ของประเทศ
กัมพูชาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 24 รายในวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. 2564 โดยเป็นการติดเชื้อจากการระบาดระลอกที่ 3 ซึ่งมีต้นตอจากชาวต่างชาติที่ละเมิดคำสั่งกักตัวในโรงแรม และไปเที่ยวไนต์คลับเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อตั้งแต่การระบาดเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1,011 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต
การระบาดระลอกที่ 3 ทำให้รัฐบาลกัมพูชาต้องขยายมาตรการ ปิดโรงเรียน, โรงยิม, ศูนย์จัดคอนเสิร์ต, พิพิธภัณฑ์ และสถานบันเทิงอื่นๆ ในกรุงพนมเปญ, จังหวัดกันดาล และจังหวัดสีหนุวิลล์ ออกไปอีก 2 สัปดาห์
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มอบหมายให้ พลเอก ฮุน มาเนต บุตรชายคนโตและผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา เป็นผู้นำภารกิจเปลี่ยนโรงแรมดังกล่าวเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว ซึ่งเสร็จสิ้นในวันจันทร์
และก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ รัฐบาลกัมพูชาเพิ่งผ่านกฎหมาย อนุญาตให้ลงโทษการกระทำผิดหลายอย่าง รวมถึงการปรับและจำคุก ผู้ที่ละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นการจงใจทำให้ไวรัสระบาดจะต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี หรือ 20 ปี หากเป็นการทำผิดที่กระทำโดยองค์กร
...
กฎหมายดังกล่าวยังรวมถึงมาตรการด้านการบริหารจัดการ เช่น การห้ามเดินทาง, การห้ามรวมตัว, การล็อกดาวน์พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อสูง และมาตรการอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการตอบสนองและป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ โรงแรม เกรท ดยุค พนมเปญ ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ เคยเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในช่วงปี 2000 และเป็นที่พักยอดนิยมสำหรับนักการทูตต่างชาติ, เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเอ็นจีโอ และอื่นๆ ในช่วงที่มีการจัดการประชุมรัฐบาลหรือการประชุมระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม โรงแรมแห่งนี้ถูกนักธุรกิจชาวจีนซื้อไป และเปลี่ยนชื่อเป็น เกรท ดยุค พนมเปญ เหมือนในปัจจุบัน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเหตุใด โรงแรมแห่งนี้จึงถูกปิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา