ชาวพม่ารวมพลังชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร ไม่หวั่น ตร.ปราบม็อบหนัก วันเดียวดับอย่างน้อย 18 ศพ ขณะที่โลกประณามกองทัพพม่าใช้ความรุนแรง รบ.สหรัฐฯ ลั่นยืนหยัดเคียงข้างชาวพม่าเรียกร้องประชาธิปไตย
สำนักข่าวรอยเตอร์และเว็บไซต์ แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงาน ชาวเมียนมาออกมารวมพลังต่อต้านรัฐประหารในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมทั้งที่เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน ทางภาคเหนือของเมียนมา ในวันที่ 1 มี.ค. 64 ครบรอบ 1 เดือนกองทัพภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส หมิ่น อ่อง หล่าย ก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยตำรวจปราบจลาจลในเมืองล่าเสี้ยวมีการยิงแก๊สน้ำตาสลายม็อบ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตำรวจได้ใช้วิธีรุนแรงในการปราบปรามม็อบ ทั้งปาระเบิดแสง ใช้กระสุนจริง ยิงแก๊สน้ำตา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ศพ โดยเมื่อวันจันทร์ ชาวเมียนมาได้นำดอกไม้ โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีแดงมาวางไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุนองเลือด และบางคนถึงกับพูดว่าพวกเราจะไม่มีวันให้อภัยต่อทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม
...
ด้าน นายทอม แอนดรูว์ส ผู้เสนอรายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาออกแถลงการณ์ว่า เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลทหารยังคงใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร ดังนั้น ประชาคมโลกจึงควรยกระดับการลงโทษต่อรัฐบาลทหารของเมียนมา ด้วยการคว่ำบาตรด้านอาวุธ รวมทั้งเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อคณะผู้นำรัฐบาลทหารให้มากขึ้น
‘การที่ประชาคมโลกประณามกองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีแต่ยังไม่เพียงพอ’ นายแอนดรูว์ส ออกแถลงการณ์
นายแอนโทนี บลินเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ขอยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในเมียนมา และพวกเราจะสนับสนุนให้ทุกประเทศรวมพลังเป็นเสียงเดียวกันในการสนับสนุนความปรารถนาของชาวเมียนมาที่ต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา
ขณะที่ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเตรียมใช้มาตรการเพิ่มเติมมากขึ้น ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อตอบโต้กองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหาร ‘เราจะดำเนินการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งนานาประเทศทั่วโลกเพื่อดำเนินการกับบรรดาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น’ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าว