องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) แถลงร่วมกันเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชุดแรกจำนวน 600,000 โดสของแอสตราเซเนกา-มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียได้จัดส่งถึงกรุงอังการา ของสาธารณรัฐกานา ซึ่งเป็นวัคซีนลอตแรกที่ส่งให้ประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง ตามโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลกขององค์การอนามัยโลก หรือโคแวกซ์ โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงก่อน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.เป็นต้นไป
การส่งมอบครั้งนี้เกิดขึ้นเกือบ 1 ปีหลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นครั้งแรกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นโรคระบาดทั่วโลกและ 8 เดือนหลังจากการเปิดตัวโครงการโคแวกซ์ ที่มุ่งรวบรวมเงินทุนจากประเทศที่ร่ำรวยกว่าและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 และแจกจ่ายไปทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกัน และมีเป้าหมายที่จะส่งมอบปริมาณ 2,300 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ในจำนวนนี้มี 1,800 ล้านโดสส่งให้แก่ประเทศที่ยากจนกว่าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะครอบคลุมประชากรมากกว่า 20% ในแต่ละประเทศ แม้จะไม่เพียงพอต่อการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ตาม
ด้านสหภาพแอฟริกาพยายามช่วยให้สมาชิกทั้ง 55 ประเทศซื้อวัคซีนเพิ่ม เพื่อให้ 60% ของประชากร 1,300 ล้านคนในทวีปมีภูมิคุ้มกันในช่วง 3 ปี เมื่อสัปดาห์ก่อนทีมวัคซีนกล่าวว่าได้สั่งจองวัคซีนของแอสตราเซเนกา, ไฟเซอร์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวน 270 ล้านโดสสำหรับจัดส่งในปีนี้ ขณะที่จีนได้บริจาควัคซีนซิโนฟาร์มจำนวนหนึ่งให้กับซิมบับเว และอิเควทอเรียลกินี ส่วนรัสเซียได้เสนอวัคซีนสปุตนิก วี จำนวน 300 ล้านโดสพร้อมความช่วยเหลือทางการเงิน แต่กระนั้นหลายประเทศยังพึ่งพาโคแวกซ์เป็นส่วนใหญ่
...
ช่วงต้นสัปดาห์ นายเทดรอส อดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ได้เรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยแบ่งปันปริมาณวัคซีนกับโครงการโคแวกซ์ โดยกล่าวว่าเป้าหมายของการกระจายอย่างเท่าเทียมกันนั้นอยู่ในอันตราย เนื่องจากประเทศร่ำรวยบางประเทศทำสัญญาซื้อวัคซีนปริมาณหลายพันล้านสำหรับประชากรของตนกับผู้ผลิตโดยตรง ส่งผลกระทบจำนวนวัคซีนที่ตกลงไว้กับโคแวกซ์ จนถึงขณะนี้มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 210 ล้านโดสทั่วโลก แต่ครึ่งหนึ่งอยู่ใน 2 ประเทศเท่านั้น อีกมากกว่า 200 ประเทศยังไม่ได้วัคซีนเลยแม้แต่โดสเดียว จนถึงขณะนี้โครงการโคแวกซ์ได้จัดสรรวัคซีนชุดแรก 330 ล้านโดสให้กับ 145 ประเทศรวมถึงในแอฟริกาตะวันตก.