ศาลเกาหลีใต้จะตัดสินคดีของนายเจย์ วาย ลี หรืออี แจยอง ทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัทซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด ในข้อหาติดสินบนในวันที่ 18 ม.ค. ซึ่งคำตัดสิน ดังกล่าวมีแนวโน้มจะส่งผลให้เกิดความยุ่งยากไม่เพียงแต่บริษัทซัมซุงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง “แชโบล” กลุ่มธุรกิจครอบครัวขนาดยักษ์ใหญ่ทั้งหมดของเกาหลีใต้

นายเจย์ วาย ลี วัย 52 ปี ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบนผู้ที่เกี่ยวข้อง กับอดีตประธานาธิบดีปัก กึนเฮ โดยให้การปฏิเสธ และถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ในปี 2560 ต่อมามีการลดโทษและถูกระงับในการอุทธรณ์จนได้รับการปล่อยตัว หลังจากรับโทษ 1 ปี จากนั้นศาลฎีกาได้ส่งคดีกลับไปยังศาลอุทธรณ์ของกรุงโซลเพื่อให้รื้อคดีดังกล่าวมาพิจารณาอีกครั้ง โดยครั้งนี้อัยการได้เสนอโทษจำคุก 9 ปี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่าศาลไม่น่าจะมีคำตัดสินให้ลีพ้นผิด แต่ก็อาจระงับโทษจำคุก นอกจากนี้ยังมีคดีทุจริตทางบัญชี และยักย้ายถ่ายเทหุ้น

ที่ผ่านมา “แชโบล” ได้รับเครดิตในการสร้างเศรษฐกิจเกาหลีใต้ให้รุ่งเรืองจนก้าวเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย แต่ก็ถูกมองว่าใช้อำนาจมากเกินไปและรัฐไม่สามารถกำกับดูแลให้ปฏิบัติตามกฎหมายได้ ประธานาธิบดีมุน แจอิน เคยประกาศในปี 2560 ว่าจะลดบทบาทอำนาจของกลุ่มแชโบล แต่ก็กลับสนับสนุนบริษัทใหญ่เหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หากลีถูกตัดสินให้จำคุกย่อมจะส่งผลโดยตรงต่อการบริหารซัมซุง ขณะที่ลี คุนฮี บิดาผู้ล่วงลับเมื่อ ต.ค. ก็เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบน และเลี่ยงภาษีแต่ไม่เคยรับโทษจำคุกและยังได้รับการอภัยโทษ.

(ภาพประกอบจาก : แฟ้มภาพ REUTERS)