นักวิจัยบราซิลเผย ผลการทดสอบวัคซีน โคโรนาแวค ของจีนขั้นสุดท้ายชี้ว่า วัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพต้านไวรัสโควิด-19 ที่ 50.4% เท่านั้น
สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า นักวิจัยจากสถานบันชีวการแพทย์ ‘บูตันตัน’ ในประเทศบราซิล เผยว่า การทดสอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ‘โคโรนาแวค’ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ‘ซีโนแวค ไบโอเทค’ ของจีน ในขั้นสุดท้ายชี้ว่า วัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโดยรวมเพียง 50.38% ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับการอนุมัติใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และต่ำกว่าตัวเลขประเมิน 78% ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนมาก
ในการแถลงข่าวที่รัฐ เซา เปาโล เมื่อวันอังคารที่ 12 ม.ค. 2564 นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า พวกเขาจัดประเภทของผู้ติดเชื้อไว้ 6 ประเภท ได้แก่ ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ, มีอาการเล็กน้อยมาก, มีอาการเล็กน้อย, มีการอาการปานกลาง 2 ระดับ และ อาการหนัก ซึ่ง 2 ระดับแรกไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางการแพทย์
โดยประสิทธิภาพ 78% ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน คำนวณจากกลุ่มผู้ติดเชื้ออาการ เล็กน้อย, ปานกลาง และหนัก และเมื่อรวมผู้ติดเชื้ออาการเล็กน้อยมากเข้าไปด้วย ตัวเลขประสิทธิภาพของวัคซีนที่ออกมาจึงเหลือเพียง 50.38% ขณะที่นาย ริคาร์โด ปาลาซิออส ผู้อำนวยการของ บูตันตัน ยืนยันว่า วัคซีนตัวนี้ลดความรุนแรงของโรคลง
...
นายปาลาซิออส กล่าวด้วยว่า ข้อเท็จจริงที่ว่าการทดสอบกระทำในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีการสัมผัสเชื้อไวรัสสูง และเรื่องที่ว่า การให้วัคซีน 2 โดสห่างกันในระยะเวลาสั้นๆ เป็นสิ่งอธิบายว่า เหตุใดอัตราประสิทธิภาพจึงออกมาต่ำ และการรวมผู้ป่วยอาการเล็กน้อยมากเข้าไป ก็กระทบต่อตัวเลขในขั้นสุดท้ายด้วย
“เราเพิ่มความยากทั้งหมดที่เป็นไปได้เข้าไป เมื่อคุณร่นเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนแต่ละโดส การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันก็จะลดลง” นายปาลาซิออส กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ออกมาถือว่าน่าผิดหวังสำหรับรัฐบาลบราซิล เนื่องจากวัคซีน โคโรนาแวค เป็นวัคซีน 1 ใน 2 ชนิดที่บราซิลสั่งซื้อและเตรียมฉีดให้ประชาชน เพื่อรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 2 ของพวกเขา นอกจากนี้ ตัวเลขประสิทธิภาพที่ออกมายังต่ำกว่าวัคซีนของ ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค กับ โมเดอร์นา ที่อยู่ระหว่าง 90-95% ด้วย