โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ทำให้ตนเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากเดโมแครตคนแรกที่ชนะในรัฐจอร์เจียได้ในรอบ 3 ทศวรรษและยังเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนแสดงตัวอีกครั้งในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย
โดยไบเดนได้มาช่วยหาเสียงให้กับ 2 สมาชิกเดโมแครตอย่าง จอน ออสซอฟฟ์และราฟาเอล วอร์น็อค ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีพื้นเพเป็นชาวจอร์เจียในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็มาหาเสียงช่วยผู้สมัครจากรีพับลิกันที่โบสถ์เมกาเชิร์ช ในจอร์เจียก่อนหน้านี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กำหนดจัดการชุมนุมในตอนกลางคืนทางตอนเหนือของจอร์เจีย
จนถึงขณะนี้ผู้นำสหรัฐฯยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อไบเดน ได้พยายามกระตุ้นสมาชิกพรรครีพับลิกันด้วยความพยายามที่จะล้มผลการเลือกตั้งเมื่อ 3 พ.ย. และพยายามรักษาอำนาจไว้ในสมัยที่สอง ส่วนไบเดนได้พูดพาดพิงถึงทรัมป์ว่า “นักการเมืองไม่อาจถือสิทธิ์ หรือยึดอำนาจได้โดยการบ่อนทำลายการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย” และยังพูดติดตลกว่าเขาชนะจอร์เจียถึง 3 ครั้ง เนื่องจากมีการนับคะแนนใหม่ทั่วทั้งรัฐ 2 ครั้ง
ไบเดนกล่าวว่าต้องการเสียงข้างมากในวุฒิสภาเพื่อออกกฎหมายต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และยังโจมตีเดวิด เพอร์ดู และ ส.ว. เคลลี เลิฟเฟลอร์ จากรีพับลิกันที่ออกมายืนยันว่าจะคัดค้านการลงมติรับรองผลโหวตของคณะผู้เลือกตั้งให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ โดยไบเดนแขวะว่าเรามีวุฒิสมาชิก 2 คนที่คิดว่าพวกเขาสาบานตนต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา วันเดียวกันเพนซ์บอกกับกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวคริสเตียนหัวอนุรักษนิยมที่โบสถ์ร็อคสปริงส์ในมิลเนอร์ รัฐจอร์เจีย ว่าการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองเป็น “แนวป้องกันสุดท้าย” ในการต่อต้านการยึดอำนาจของประชาธิปไตยในวอชิงตัน
ทั้งนี้ รีพับลิกันต้องการชัยชนะเพียงที่นั่งเดียวเพื่อครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่เดโมแครตต้องการชัยชนะทั้ง 2 ที่นั่ง เพื่อครองสัดส่วนในวุฒิสภา 50-50 เสียง และเปิดทางให้ว่าที่รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ซึ่งจะได้รับช่วงตำแหน่งประธานวุฒิสภาต่อจากเพนซ์ เป็นผู้ชี้ขาดกรณีที่เสียงโหวตในวุฒิสภาเท่ากัน
...
ในการประชุมร่วมของรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. มีเพนซ์เป็นประธานการประชุม แม้สมาชิกรีพับลิกันยืนยันที่จะคัดค้านการลงมติรับรองผลโหวตของคณะผู้เลือกตั้งที่ให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ อย่างไรก็ตาม เพนซ์ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะคัดค้าน.