นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ประกาศใช้มาตรการควบคุมระดับ ‘เทียร์ 4’ ในกรุงลอนดอน กับบางส่วนของอังกฤษ หลังจากไวรัสโควิด-19 พันธ์ุใหม่แพร่กระจายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธ.ค. 2563 นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร จัดการประชุมฉุกเฉินร่วมกับรัฐมนตรีอาวุโสในรัฐบาล เพื่อหารือเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีการแปรผันทางพันธุกรรมรูปแบบใหม่ (variant) หลังจากมีหลักฐานชี้ว่าเชื้อสายพันธ์ุนี้ระบาดเร็วกว่า และกำลังมาแทนที่สายพันธ์ุเดิม

ในเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายจอห์นสันจัดงานแถลงข่าวหลังการประชุม โดยมีเซอร์ แพทริค วอลเลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และ ศ.คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษเข้าร่วมด้วย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาในหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ เริ่มถูกผลักดันโดยไวรัสสายพันธ์ุใหม่ ซึ่งอาจติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธ์ุเก่ามากสุดถึง 70% แต่นายจอห์นสันย้ำว่า ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสพันธ์ุนี้ทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น หรือมีอัตราการเสียชีวิตมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการควบคุมระดับใหม่ คือ ‘เทียร์ 4’ จากเดิมที่มีเพียง 3 ระดับ ในกรุงลอนดอนและบางพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ และทางตะวันออกของอังกฤษ ตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้งในวันที่ 30 ธ.ค.

เซอร์ แพทริค วอลเลนซ์, บอริส จอห์นสัน และ ศ.คริส วิตตี
เซอร์ แพทริค วอลเลนซ์, บอริส จอห์นสัน และ ศ.คริส วิตตี

...

ความเข้มงวดของการควบคุมจะเท่ากับมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศที่เคยใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวต้องอยู่แต่ในบ้าน ไม่สามารถเดินทางเข้าหรือออกจากเขตเทียร์ 4 ได้ โดยมีข้อยกเว้นในบางกรณี ส่วนรานค้าที่ไม่จำเป็น และโรงยิมจะถูกปิด แต่มาตรการ ‘support bubble’ หรือการให้อนุญาตผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่คนเดียว สามารถพบปะกับสมาชิกครัวเรือนอื่นได้ภายใต้เงื่อนไขจำกัด จะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้

นายจอห์นสันระบุด้วยว่า ผู้ที่อยู่ในเขตเทียร์ 4 ไม่สามารถมีงานคริสต์มาสได้ตามแผนแล้ว โดยในพื้นที่เทียร์ 1-3 จะมีการผ่อนผันให้ประชาชนไม่เกิน 3 ครัวเรือนพบปะกันได้ในวันคริสต์มาส แต่ประชาชนในพื้นที่เทียร์ 4 จะไม่ได้รับการผ่อนผันดังกล่าว นอกจากผ่านมาตรการ support bubble

ด้านเซอร์ แพทริค วอลเลนซ์ กล่าวว่า โควิด-19 พันธ์ุใหม่ตัวนี้เริ่มปรากฏครั้งแรกช่วงกลางเดือนกันยายน ในกรุงลอนดอนและเมืองเคนท์ ก่อนจะกลายเป็นสายพันธ์ุที่มีอำนาจเหนือกว่าโควิด-19 สายพันธ์ุอื่นในกรุงลอนดอนในเดือนธันวาคม โดยอัตราส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เกิดจากเชื้อพันธ์ุใหม่ในลอนดอน เพิ่มจาก 28% ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เป็น 62% ในสัปดาห์ก่อน

ส่วน ศ.วิตตี เผยว่า ในพื้นที่ที่มีการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 พันธ์ุใหม่ มีจำนวนผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในภาคตะวันออกของอังกฤษเพิ่มขึ้น 36%, ในลอนดอนเพิ่มขึ้น 34% และในภาคตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 28%

อีกด้านหนึ่ง นายมาร์ก เดรคฟอร์ด รัฐมนตรีลำดับ 1 หัวหน้าคณะรัฐบาลของเวลส์ ประกาศหลังจากหารือฉุกเฉินกับเหล่ารัฐมนตรี ว่าจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วทุกพื้นที่ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป โดยจะยกเลิกแผนการจัดงานเทศกาลทุกอย่าง ยกเว้นในวันคริสต์มาส

ขณะเดียวกัน นางนิโคลา สเตอร์เจียน รัฐมนตรีลำดับ 1 หัวหน้าคณะรัฐบาลของสกอตแลนด์ ประกาศจะลดการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 ลงจาก 5 วัน เหลือวันคริสต์มาสเพียงวันเดียว โดยจะอนุญาตให้สมาชิกจาก 3 ครัวเรือนพบปะกันในที่ร่มได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 8 คน นอกจากนี้รัฐบาลจะปิดชายแดนห้ามเดินทางเข้า-ออก และจะอนุญาตให้เดินทางระหว่างเขตในประเทศได้ในวันคริสต์มาสเท่านั้น

หลังจากนั้น รัฐบาลสกอตแลนด์ จะยกระดับมาตรการควบคุมโควิดในทุกพื้นที่สู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด ตั้งแต่ 26 ธ.ค. เป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยจะห้ามประชาชนที่ไม่ได้มาจากครัวเรือนเดียวกันพบปะในที่ร่ม, ปิดผับ ร้านอาหาร และร้านค้าที่ไม่สำคัญ ส่วนโรงเรียนจะเริ่มเปิดได้ในวันที่ 11 ม.ค. 2564 แต่ต้องสอนผ่านทางออนไลน์จนถึง 18 ม.ค.