เมื่อ 18 พ.ย. นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยว่า ทางรัฐบาลจะเตรียมห้ามขายรถยนต์คันใหม่ที่ใช้น้ำมันดีเซล หรือเบนซินภายใน ปี 2573 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเร็วกว่าที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้า 10 ปี แต่ ยังคงยกเว้นรถยนต์ไฮบริดที่ยังสามารถขายได้ไปจนถึงปี 2578 พร้อมให้คำมั่นกับส่วนหนึ่งของแผนขั้นตอน 10 ประการ “ปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียว” จากงบประมาณ 12,000 ล้านปอนด์ หรือกว่า 480,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้พลังงานทดแทนจากกังหันลม หันไปผลิตรถไฟฟ้า และพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้านี้ ด้วยคำอ้างว่าจะช่วยสร้างงานในอุตสาหกรรมคมนาคมและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้มากถึง 250,000 ตำแหน่ง ทั้งยังจะช่วยให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายปลอดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2590 อีกด้วย

ขณะที่กลุ่มธุรกิจรถยนต์ต่างแสดงความกังวลกับเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ โดยมองว่าเป้าหมายเดิมคือภายในปี 2583 หรืออีก 20 ปีข้างหน้า ก็ยังถือว่ายากแล้ว ทั้งนี้ อังกฤษมีกำหนดเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ในเดือน ธ.ค.ปีหน้า หลังต้องเลื่อนออกไป 12 เดือนจากกำหนดเดิมเดือน ธ.ค.ปีนี้ เพราะสถานการณ์โควิด-19.