รู้จักนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นักอสังหาที่ผันตัวลงเล่นการเมือง สไตล์ไม่เหมือนใคร หวิดถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เรียกความสนใจจากสื่อทั่วโลกได้ไม่เว้นวัน
นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 นายทรัมป์ เป็นนักธุรกิจและนักอสังหาริมทรัพย์ที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของอเมริกา และเป็นที่รู้จักในแวดวงบันเทิงจากการปรากฏตัวในซีรีส์ The Apprentice ทางช่อง เอ็นบีซี ก่อนที่ภายหลังจะลงเล่นการเมืองแบบเต็มตัว
นายทรัมป์ เป็นที่รู้จักจากการใช้มาตรการที่แข็งกร้าวกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่หลายครั้งหลายครา ถึงแม้ว่าจะถูกมองว่าล้มเหลวในการจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเมินเฉยต่อปัญหาสภาพอากาศ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้นำสหรัฐฯคนนี้สามารถดึงความสนใจจากสื่อทั่วโลก ทั้งวาจาที่โผงผาง และการจัดการกับปัญหาที่แตกต่างจากประธานาธิบดีสหรัฐฯคนก่อนๆ และมักถูกพูดถึงบนสื่อไม่เว้นวัน โดยระหว่างที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่สหรัฐอเมริกาหลายต่อหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินข้ามพรมแดนเกาหลีเหนือ และหวิดโดนถอดถอนจากตำแหน่ง
...
ชีวิตส่วนตัว นักอสังหาสู่เวทีการเมือง
นายทรัมป์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1946 ย่านควีนส์ นครนิวยอร์ก ปัจุบันอายุ 74 ปี จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย หลังจากจบการศึกษานายทรัมป์ได้เข้าทำงานในวงการอสังหาริมทรัพย์กับบิดา ก่อนหันไปลงเล่นการเมืองในปี 2016 และสามารถเอาชนะ นางฮิลลารี คลินตัน คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครตไปได้
ทรัมป์ มีภรรยาทั้งหมด 3 คน ในปี 1977 ทรัมป์แต่งงานกับ อิวานา ทรัมป์ นางแบบจากนครนิวยอร์ก ภรรยาคนแรก ซึ่งได้รับการขนานนามว่า เป็นมือขวาของทรัมป์ และมีส่วนร่วมในการออกแบบและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับองค์กรและโรงแรมของทรัมป์ ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 3 คน คือ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์, อิวานกา ทรัมป์ และอีริก ทรัมป์ ก่อนที่จะหย่าร้างกันในปี 1992
ในปี 1993 ทรัมป์ ได้แต่งงานกับ มาร์ลา เมเปิลส์ นักแสดงหญิง มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนคือ ทิฟฟานี ทรัมป์ ก่อนที่จะหย่าร้าง ในปี 1999
ในปี 2005 นายทรัมป์ ได้แต่งงานใช้ชีวิตกับนางเมลาเนีย ทรัมป์ ชาวสโลเวเนีย ซึ่งอายุน้อยกว่านายทรัมป์ 23 ปี โดยได้มีการจัดงานสุดหรู และมีแขกคนสำคัญเข้าร่วมมากมาย หนึ่งในนั้นคือ นางฮิลลาลี คลินตัน และนายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายทรัมป์และสตรีหมายเลขหนึ่ง นางเมลาเนีย ทรัมป์ มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ บารอน ทรัมป์
นายทรัมป์ เป็นหนึ่งในเศรษฐีอเมริกัน และมีธุรกิจในเครือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น องค์กรทรัมป์และตึกทรัมป์ ไปจนถึงหุ้นส่วนในรายการทีวี The Apprentice และการแข่งขันมิสยูนิเวิร์ส รวมไปถึงสนามกอล์ฟ ในปี 2017 นายทรัมป์ประเมินมูลค่าธุรกิจของตนเองอยู่ที่ 1,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 42,648 ล้านบาท แต่รายได้ของนายทรัมป์ยังเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกัน เนื่องจากนายทรัมป์ไม่เปิดเผยมูลค่าการคืนภาษี
เดินข้ามพรมแดนเกาหลี จับมือคิม จองอึน
...
ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นายทรัมป์มีวีรกรรมที่ทำให้ทั่วโลกจดจำมากมาย นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาที่เดินทางเข้าไปยังเกาหลีเหนือขณะดำรงตำแหน่ง และปรากฏภาพนายทรัมป์เดินจับมือกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือในสื่อหน้าหนึ่งทั่วโลก
โดยทั้งสองฝ่ายพบกันที่เขตปลอดทหารบริเวณแนวชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ก่อนที่นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้เชิญนายทรัมป์ข้ามเขตแดนเข้าไปเหยียบแผ่นดินเกาหลีเหนือ แต่หลังจากนั้นประเด็นการเจรจาการปลดอาวุธนิวเครีย์ของเกาหลีเหนือยังคงคลุมเครือ ถึงแม้ว่าจะมีการเจรจาในต่างประเทศแล้วก็ตาม
...
หวิดถูกถอดถอนจากตำแหน่ง
นายทรัมป์ยังเคยถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง ในข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ในกรณีที่ไปกดดันรัฐบาลยูเครนให้ดำเนินการสอบสวนนายโจ ไบเดน และบุตรชาย เป็นการหวังผลทางการเมืองและการเลือกตั้ง
ซึ่งผลการลงมติครั้งนั้นทำให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐฯ ที่ถูกสภาถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นนายทรัมป์รอดพ้นจากการถูกถอดถอน หลังจากที่วุฒิสมาชิกลงมติว่านายทรัมป์ไม่มีความผิด
นายพลคนสำคัญอิหร่านถูกสังหาร
นอกจากนี้ระหว่างดำรงตำแหน่ง ยังเกิดเหตุการณ์ พลเอกคาเซม โซไลมานี นายพลคนสำคัญซึ่งเปรียบเสมือนเป็นผู้นำหมายเลข 2 ของอิหร่าน ถูกทางการสหรัฐฯสังหารด้วยปฏิบัติการทางอากาศ โดยฝ่ายอิหร่านได้ออกมาประณามพร้อมระบุว่าพฤติกรรมของสหรัฐฯเป็นการก่อการร้าย
ขณะที่นายทรัมป์ระบุว่า การสังหารพลเอกโซไลมานี เป็นการช่วยชีวิตคนนับพัน และเปรียบเสมือนการสังการปิศาจ เหตุการณ์ดังกล่าวกระทบความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างแสนสาหัส และสร้างความโกรธแค้นให้กับชาวอิหร่านที่แห่เข้าร่วมพิธีศพของพลเอกโซไลมานีอย่างล้นหลาม
...
ถูกวิจารณ์ยับเพิกเฉยต่อวิกฤติโควิด
ส่วนประเด็นที่ทำให้นายทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดขณะดำรงตำแหน่ง หนีไม่พ้นการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ถูกมองว่าไม่ให้ความสำคัญกับโรคระบาดเท่าที่ควร และปล่อยให้มีการแพร่ระบาดจนคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปกว่า 230,000 ศพ จนกลายมาเป็นประเด็นที่ฝ่ายเดโมแครตใช้เล่นงานนายทรัมป์อยู่เสมอ
ก่อนหน้านี้กว่านายทรัมป์จะยอมสวมหน้ากากอนามัยให้สาธารณชนเห็นครั้งแรก ถึงกับต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าไปขอร้องกันยกใหญ่
แต่โรคโควิด-19 ไม่เข้าใครออกใคร เพราะ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเมินเฉยต่อการแพร่ระบาดของโรค และเมินการสวมใส่หน้ากากอนามัย ต้องป่วยเป็นโรคโควิด-19 เสียเอง ซึ่งภายหลังถึงแม้ว่าทีมแพทย์จะออกมายืนยันว่านายทรัมป์ไม่แพร่เชื้อ และสามารถกลับมาปฏิบัติภารกิจได้ แต่ทางคณะผู้จัดงานดีเบตได้ประกาศจัดดีเบตทางไกลเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทายทรัมป์ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม จนทำให้ต้องยกเลิกการดีเบตไปครั้งหนึ่ง.
ที่มา: Biography